ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/entertain/228561
วันพุธ ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
มารายห์ แครีย์ เผยไม่คิดว่าจะได้แต่งเป็นครั้งที่สามเป็นนักร้องสาวที่ไม่เคย
ตกยุคเลยจริงๆ สำหรับชื่อของ มารายห์ แครีย์ แต่สำหรับเรื่องส่วนตัวนั้น เธอเองกลับพ้อว่ามันไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จสักเท่าไรนัก โดยนักร้องสาวเพิ่งออกมาเปิดใจถึงการแต่งงานที่ล้มเหลวของเธอกับอดีตสามี นิค แคนนอน เมื่อเร็วๆ นี้พร้อมทั้งบอกว่าเธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีโอกาสได้แต่งงานอีกครั้ง
แครีย์กล่าวว่า “ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะมีลูก คือฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะมีลูกกับใครสักคน แล้วจากนั้นเราก็หย่ากัน แบบ โอ้ ทำได้ดีมากเลย ทำเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย แต่ชีวิตมันก็มีอะไรเกิดขึ้นมากมาย แล้วมันก็เป็นสิ่งที่อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด มันก็โอเคล่ะ สำหรับลูกๆ แล้ว ฉันก็หวังว่ามันจะไม่เกิดอะไรแบบนี้กับพวกเขา”
ในส่วนเรื่องของงานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นระหว่างเธอกับมหาเศรษฐี เจมส์ ปาร์คเกอร์ นั้น แครีย์กล่าวว่า “พวกเราไม่อยากให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ความเป็นจริงก็คือมันต้องเป็นอย่างนั้น เพราะว่ามีอะไรหลายๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกับฉันโดยตรง และเขาก็มีกลุ่มบริษัทในเครือที่ใหญ่มาก และฉันก็ไม่อยากจะเอาเรื่องพวกนี้ไปจากเขา ดังนั้นเราเลยต้องจัดการกับพวกมันให้ได้ ทุกครั้ง ที่คุณจะแต่งงานกับใครสักคน และฉันก็ควรจะรู้เนอะ นี่มันเป็นการแต่งงานครั้งที่สามของฉันแล้ว และบาทหลวงก็บอกกับฉันว่า อย่ามาทำตัวเป็น อลิซาเบธ เทเลอร์ ใส่ผมนะ แล้วฉันก็บอกว่า ฉันไม่ใช่อย่างนั้นนะ แล้วก็พูดว่า บ๊ายบาย”

‘คริสเต็น สจ๊วต’ เดท ‘อลิเซีย คาร์เจล’
หลังจากปล่อยให้คนเอาไปพูดกันต่างๆ นานาถึงความสัมพันธ์ของนางเอกสาว คริสเต็น สจ๊วต กับผู้สร้างภาพยนตร์อย่าง อลิเซียคาร์เจล จนตอนนี้ สจ๊วตก็ออกมายอมรับแล้วว่าเธอกำลังคบหาอยู่กับโปรดิวเซอร์สาว และยังบอกอีกด้วยว่าความสัมพันธ์เป็นไปได้ด้วยดีไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
สจ๊วตให้สัมภาษณ์ว่า “ตอนนี้ฉันกำลังตกหลุมรักแฟนสาวของฉันอย่างมากจริงๆ เราเคยเลิกกันมาสองสามครั้งแล้ว และก็กลับมาคบกันใหม่ และตอนนี้ ฉันก็รู้สึกเหมือนกับว่า ในที่สุดฉันก็กลับมามีความรู้สึกได้อีกครั้ง”
นอกจากนี้ นางเอกสาวกล่าวอีกด้วยว่า “ตอนที่ฉันออกเดทกับผู้ชาย ฉันต้องซ่อนทุกอย่างที่ฉันทำ เพราะว่าทุกอย่างที่เป็นเรื่องส่วนตัวมันทำให้ฉันรู้สึกว่ามันไม่สำคัญในทันที ดังนั้นฉันก็เลยไม่ค่อยชอบเท่าไร เราถูกทำให้กลายเป็นตัวละครตัวหนึ่ง แล้วถูกวางไว้ในหนังสือการ์ตูนที่น่าหัวเราะ ซึ่งฉันรู้สึกว่านั่นมันเป็นของของฉันนะ คุณกำลังทำให้ความสัมพันธ์ของฉันมันกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งมันไม่ใช่ ฉันไม่ชอบเลย แต่จากนั้น มันก็เปลี่ยนไปเมื่อฉันเริ่มออกเดทกับผู้หญิง ฉันรู้สึกเหมือนกับว่า จริงๆ แล้ว การต้องซ่อนอะไรๆ นั่นมันหมายความว่าฉันไม่โอเคกับมัน หรือฉันละอายในเรื่องนั้นดังนั้นฉันเลยต้องเปลี่ยนแปลงวิธีที่จะอยู่ท่ามกลางสาธารณชน ฉันได้เปิดชีวิตของฉันมากขึ้น และฉันก็มีความสุขขึ้นมาก”

‘คริส แพรตต์’ เผย ชอบพูดถึงตัวเอง
ยุ่งอยู่กับการโปรโมทภาพยนตร์เรื่องใหม่ “Guardians of the Galaxy” ทำให้ คริส แพรตต์ ต้องออกเดินสายให้สัมภาษณ์อยู่บ่อยๆ จนแฟนๆ สงสัยว่าพระเอกหนุ่มไม่เหนื่อยหรืออย่างไรกับการที่ต้องพูดเรื่องเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา ซึ่งแพรตต์ก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะเขาชอบพูดถึงเรื่องของตัวเองอยู่แล้ว
ระหว่างการให้สัมภาษณ์ พระเอกหนุ่มกล่าวว่า “เรื่องนี้มันอาจจะฟังดูทรหดสำหรับใครหลายๆ คน แต่ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าทรมานมากมายอะไรเลย มันเป็นเรื่องที่ผมทำได้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว ผมชอบพูดถึงเรื่องของตัวเองจริงๆ”
นอกจากนี้ แพรตต์ยังกล่าวอีกด้วยว่า “ผมเองเป็นพนักงานขายของตามบ้านมานาน ดังนั้น การที่จะให้ผมเดินเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยคนแปลกหน้า และพูดเกี่ยวกับอะไรบางอย่างที่ผมกระตือรือร้นอยากจะพูด มันก็เลยง่ายกว่าการที่จะให้เดินเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยคนแปลกหน้า แล้วพูดอะไรที่ผมไม่ได้สนใจ โชคดีที่ผมตื่นเต้นกับภาพยนตร์“Guardians of the Galaxy”ภาคสอง มันก็เลยค่อนข้างง่าย”

‘ลินด์เซย์ โลฮาน’ โดนคู่หมั้นหนุ่มทำร้าย
เงียบหายจากเรื่องดราม่าไปนาน ลินด์เซย์ โลฮาน คงกลัวแฟนๆ จะคิดถึงปัญหาต่างๆ ของเธอ ดาราสาวเลยตะโกนปลุกเพื่อนบ้านย่านไนท์สบริจ ลอนดอน เมื่อเช้าวันก่อน ด้วยการตะโกนออกมาจากระเบียง เนื่องจากเธอทะเลาะกับคู่หมั้นหนุ่ม อีกอร์ ทาบาบาซอฟ อย่างรุนแรง
ดาราสาวตะโกนว่า “ได้โปรด ได้โปรด ได้โปรด เขาเพิ่งบีบคอฉัน เขาเกือบจะฆ่าฉัน ทุกคนต้องรู้เรื่องนี้ ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้นะ ออกไป ฉันท้าคุณอีกที คุณมันเป็นบ้าไปแล้ว คุณมันไอ้บ้า คุณต้องการความช่วยเหลือ นี่มันบ้านของฉันนะ ออกไป!”
รายงานของตำรวจเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้กล่าวว่า “ตำรวจถูกเรียกไปยังที่เกิดเหตุในบ้านพักย่านไนท์สบริจ เมื่อวันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม เวลา 05.10 น.หลังจากได้รับแจ้งจากผู้หญิงที่กำลังได้รับความทุกข์ทรมาน เจ้าหน้าที่ได้เดินทางไป และเนื่องด้วยความกังวลในสวัสดิภาพของผู้อาศัย พวกเขาเลยพังเข้าไปในบ้าน ซึ่งไม่มีใครอยู่ในบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ก็ได้ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม และก็ได้เจอกับผู้อาศัย โดยพบว่าพวกเขาปลอดภัยดี ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ และไม่มีการจับกุมแต่อย่างใด”

ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ พบรัก อลิเซีย วิคานเดอร์ บนฟลอร์เต้นรำ
เป็นคู่รักคู่หวานอีกคู่ของวงการเลยทีเดียว สำหรับ ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์ และอลิเซีย วิคานเดอร์ แถมตอนที่ทั้งสองพบรักกันนั้นก็อย่างกะอยู่ในฉากภาพยนตร์รักโรแมนติกเลยทีเดียว
ฟาสเบนเดอร์เดทกับนางเอกสาวตั้งแต่เมื่อปี 2014 ขณะที่ทั้งสองกำลังถ่ายทำภาพยนตร์ดราม่าเรื่อง “The Light Between Oceans” ซึ่งแม้จะมีรายงานข่าวว่าทั้งสองพบรักกันขณะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่จริงๆ แล้วทั้งสองได้มีโอกาสเจอกันมาก่อนในงานเต้นรำของเทศกาลภาพยนตร์เทศกาลหนึ่ง เมื่อวิคานเดอร์ได้โชว์เสต็ปแบบไม่เสียชื่อนักบัลเลต์เก่า ที่ทำเอาพระเอกหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเท้าไฟเช่นกัน ต้องเขินม้วนต้วนไปเลย
วิคานเดอร์ให้สัมภาษณ์ว่า “เราเจอกันในงานเทศกาลภาพยนตร์โตรอนโต และแบฟตาส์ ที่ฟลอร์เต้นรำ”โดยพระเอกหนุ่มโดนพิธีกรหยอกว่าเขาเองก็เป็นนักเต้นที่เก่งเช่นกันซึ่งฟาสเบนเดอร์กล่าวว่า “ผมก็คิดอย่างนั้นจนกระทั่งเธอเริ่มเต้น นั่นทำให้ผมรู้สึกตัวเหลือ 2 ฟุตเลย”
หลังจากนั้น ทั้งสองก็พบกันอย่างเป็นทางการเพื่อการถ่ายทำภาพยนตร์ ฟาสเบนเดอร์ ยอมรับว่าเขาไม่ต้องทำงานหนักเลยเพื่อให้ทั้งสองมีเคมีที่ตรงกันในการแสดงเป็นคู่รัก พระเอกหนุ่มกล่าวว่า “มันเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่ต้น” โดยภาพยนตร์ดังกล่าวเป็นเรื่องราวของคู่รักที่ได้เจอกับเด็กที่ถูกทิ้ง แล้วก็รับเลี้ยงเด็กน้อยเอาไว้ ซึ่งฟังดูเหมือนจะเป็นภาพยนตร์ดราม่าหนักๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อล่ารางวัลตามฟอร์ม แต่นักแสดงกลับทำให้โทนของภาพยนตร์ออกมาดูเบาลง โดยอาศัยการเต้นที่ทำให้พวกเขาดูอบอุ่น และการเล่นบีบีกันภายใต้ร่มเงาที่สร้างขึ้น ฟาสเบนเดอร์กล่าวว่า “พวกเราตั้งเฮดช็อตของทุกคนเอาไว้บนกำแพงและเราก็ยิงมัน และเราก็ได้เต้นรำเพลงดีๆ ในตอนเช้า”
ทั้งสองเป็นคู่รักที่ได้ชื่อว่าหวงชีวิตส่วนตัว และแทบจะไม่ปริปากพูดถึงความสัมพันธ์ หรือปรากฏตัวร่วมกันในงานพรมแดงเลย อย่างไรก็ตามเมื่อฝ่ายหญิงได้รับรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบหญิงเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เธอก็จูบแฟนหนุ่มอย่างเปิดเผยในงาน

Quote
ทุกๆ คนในโลกนี้มีความน่าสนใจในตัวเอง เราเป็นเสมือนเรื่องราวที่เดินได้
เจมส์ แมคอีวอย
