ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/230250
วันอาทิตย์ ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
เสด็จฯทอดพระเนตรสีวิกากาญจน์
ในวาระวันแม่แห่งชาติ ๑๒ สิงหาคมนี้ ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มากพ้นสุดพรรณนานั้น อาทิตย์นี้ขอตามรอยงานศิลป์แผ่นดินที่สืบมาจากสายพระเนตรอันยาวไกลแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เปิดโรงฝึกศิลปาชีพสวนจิตรลดา เมื่อพ.ศ.๒๕๒๑ ให้เป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมศิลปาชีพแก่นักเรียนศิลปาชีพที่ทรงรับมาจากครอบครัวชาวนา ชาวไร่ผู้ยากจนไม่มีที่ทำกิน ดังมีพระราชดำรัสว่า “คนเหล่านี้เป็นลูกชาวไร่ ชาวนาที่ยากจนที่สุดและข้าพเจ้าเลือกมาเป็นพิเศษ เลือกจากความยากจน ครอบครัวไหนยากจนที่สุด แล้วมีลูกมากที่สุด จะเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ข้าพเจ้าจึงเลือกมา แล้วมาอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ที่ตึกเก่าๆ ที่ดั้งเดิมเป็นที่อยู่ของเจ้านายต่างๆ มากมายก่ายกอง ข้าพเจ้าให้เขาอยู่ที่นั่นแล้วก็มาทำการฝึกที่จิตรลดา”…ตลอดเวลามากกว่า ๓๐ ปีที่ผ่านมานั้น โรงฝึกศิลปาชีพสวนจิตรลดาได้พัฒนาการดำเนินงานก้าวหน้าจนสร้างช่างศิลป์และผลงานประณีตศิลป์ชั้นสูงที่ยอมรับกันว่าผลงานนั้นมีความวิจิตรงดงามถึงระดับ“ฝีมือช่างหลวง” หรือ“ช่างแห่งกรุงรัตนโกสินทร์” หลายช่าง ได้แก่ช่างถมทอง ช่างเครื่องเงินเครื่องทอง ช่างคร่ำ ช่างลงยาสี ช่างปักผ้า ช่างแกะสลักไม้ ช่างเขียนลาย และช่างทอผ้า ฯลฯ ต่างมีผลงานล้วนวิจิตรมีคุณค่ายิ่งที่แสดงถึงเอกลักษณ์และเกียรติภูมิของงานประณีตศิลป์ไทยให้ชาวโลกได้ประจักษ์ชื่นชมของงานศิลป์แผ่นดิน โรงฝึกศิลปาชีพสวนจิตรลดาแห่งนี้ได้ยกสถานะเป็น “สถาบันสิริกิติ์” เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๓ และผลงานศิลป์แผ่นดินทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นจากฝีมือชาวไร่ ชาวนา ผู้ยากจน บางคนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงได้พระราชทานโอกาสให้ฝึกปรือเพิ่มพูนฝีมือและพระราชทานกำลังใจแก่บุคคลเหล่านั้นสามารถสร้างสรรค์งานประณีตศิลป์ชั้นสูงได้อันถือว่าเป็นสิ่งที่เกิดได้ยากยิ่ง นับเป็นการสร้างผลงานสุดยอดศิลปะของสถาบันสิริกิติ์สวนจิตรลดา ที่คัดเลือกงานและสร้างสรรค์งานประณีตศิลป์ของแผ่นดิน โดยจัดแสดงให้ประชาชนชม ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม เนื่องในโอกาสมหามงคลสมัยพิเศษต่างๆ โดยใช้ชื่อนิทรรศการนั้นว่า “ศิลป์แผ่นดิน”

ทอดพระเนตรภาพจากการปักไหม
ตั้งแต่งานศิลป์แผ่นดิน ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๘-๓๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๓๕ มาจนถึงปัจจุบันนี้ได้มีผลงานสร้างสรรค์เกิดขึ้นมากมายและเป็นผลงานชิ้นเยี่ยมของแผ่นดินที่ประจักษ์สายตาแก่ชาวต่างประเทศและชาวไทย ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้ พระที่นั่งอนันตสมาคม เปิดเป็น “พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน” จัดแสดงผลงานของสถาบันสิริกิติ์เป็นการถาวร ตั้งแต่วันศุกร์ที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๑ นอกจากผลงานอันวิจิตรพิสดารจากงานของช่างฝีมือต่างๆ แล้ว โดยเฉพาะห้องปีกแมลงทับนั้นถือเป็นงานสร้างสรรค์ที่มหัศจรรย์มากโดยผนังด้านขวาตกแต่งแผ่นสานย่านลิเภาสอดด้วยเส้นเงิน เส้นทอง เส้นนากและอัญเชิญพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประดิษฐานภายในกรอบทองเขียนลายรูปหงส์เคล้าลายกนกเทศ ผนังห้องตกแต่งแผ่นสานย่านลิเภาสานเป็นลายขิดแล้วสอดด้วยปีกแมลงทับและมีไม้แกะสลักเป็นพญานาคาเกี้ยวกระหวัด ส่วนตัวพญานาคาตกแต่งปีกแมลงทับ ฝังตาทับทิม เพดานบนมีโคมระย้าพญานาคา และหงส์ ประดับปีกแมลงทับและแก้วเจียระไนอย่างน่าอัศจรรย์ สำหรับงานศิลปกรรมสำคัญของสถาบันสิริกิติ์สวนจิตรลดาในปีพ.ศ.๒๕๕๙ นี้ได้สร้าง “อาคารเรือนยอด” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานชื่อเรือนยอดหลังนี้ว่า “เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์” อันมีความหมายว่า “สร้างในวาระสำคัญหลายประการ” การสร้างอาคารเรือนยอดนับเป็นงานศิลปกรรมชั้นสูงสุดแห่งสถาปัตยกรรมไทยที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในภารกิจที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ และศาสนา สร้างเป็นเรือนโถงมีเรือนยอดเก้ายอดตามรัชกาล นับเป็นเรือนยอดที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ศิลปะของประเทศไทยที่สร้างสรรค์จากช่างศิลป์ของสถาบันสิริกิติ์ทั้งสิ้น




