ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/230020
วันศุกร์ ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
น้ำถือเป็นปัจจัยสำคัญในการทำเกษตร โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ห่างไกลระบบชลประทาน ที่ต้องพึ่งพาน้ำจากแหล่งน้ำจากธรรมชาติในการทำเกษตร เนื่องจากในปัจจุบันสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับฤดูกาลเพาะปลูก บ่อยครั้งที่เกษตรกรได้รับความสูญเสีย เช่นเดียวกับที่บ้านร่มเมือง ม.13 ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง ที่ประสบปัญหาเรื่องการจัดการดินและน้ำ ทำให้เกษตรกรในพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง และประสบปัญหาน้ำท่วมในช่วงฤดูน้ำหลากเป็นประจำ สถานีพัฒนาที่ดินพัฒนาที่ดินพัทลุง สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 กรมพัฒนาที่ดิน จึงเข้ามาสำรวจพื้นที่และดำเนินแก้ปัญหา จนเกษตรกรสามารถทำการเกษตรได้อย่างยั่งยืน

นายณรงค์ ทองเหล่ ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินพัทลุง เปิดเผยว่า สถานีพัฒนาที่ดินพัทลุง ได้รับแจ้งจากหมอดินอาสาว่า ในพื้นที่บ้านร่มเมือง ม.13ต.ควนมะพร้าว ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มเหมาะสมกับการทำนาประมาณ 3,000 ไร่ มีน้ำต้นทุนอยู่ในคลองส่งน้ำตามธรรมชาติ แต่ไม่สามารถนำน้ำมาใช้ในไร่นาได้เต็มศักยภาพ สถานีพัฒนาที่ดินพัทลุงจึงลงมาสำรวจพื้นที่และวางแผนการจัดการพื้นที่ทั้งในเรื่องดินและน้ำ เพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด โดยเริ่มจากปรับปรุงเหมืองน้ำเล็กๆ ที่ตื้นเขินให้กว้างขึ้นสามารถเชื่อมต่อจากแหล่งน้ำธรรมชาติให้ไหลลงสู่พื้นที่การทำเกษตรมีการจัดสรรให้มีทางน้ำไหลผ่านสู่แปลงเกษตรของเกษตรกรทุกราย มีการสร้างฝายชะลอน้ำตลอดเส้นทาง เพื่อชะลอน้ำที่ไหลผ่านมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติไว้ใช้ในการเกษตรได้อย่างคุ้มค่าที่สุดก่อนจะปล่อยลงสู่ทะเล และยังทำเส้นทางคมนาคมให้เกษตรกรสามารถเดินทางขนส่งสินค้าเกษตรได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากวางระบบการจัดการน้ำและเส้นทางคมนาคมแล้ว สถานีพัฒนาที่ดินพัฒนาที่ดินพัทลุง ยังแนะนำให้เกษตรกรเรียนรู้การพัฒนาปรับปรุงบำรุงดินโดยใช้ปุ๋ยพืชสดเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุและธาตุอาหารในดิน เริ่มจากพัฒนาพื้นที่นาข้าวด้วยการไถกลบตอซัง แล้วหว่านเมล็ดพันธุ์ปอเทือง เมื่อต้นปอเทืองเจริญเติบโตประมาณ45-60 วัน จะทำการไถกลบอีกครั้ง เพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้กับพืช โดยเฉพาะไนโตเจน ทำให้เกษตรกรในพื้นที่สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ ซึ่งเมื่อดินดี น้ำดี เกษตรกรก็จะได้ผลผลิตที่ดี มีกำไรจากการทำนามากขึ้น นำไปสู่ความมั่นคงในอาชีพต่อไป

นายคำพร ทิพยโสธร ประธานกลุ่มชาวนาผู้ใช้น้ำบ้านร่มเมือง ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง กล่าวว่า ที่ผ่านมา เกษตรกรในพื้นที่ประสบปัญหาเรื่องน้ำมาโดยตลอด ไม่มีน้ำทำนา บางปีทำนาได้ครั้งเดียว บางปีทำนาได้ 2 ครั้ง ไม่มีความแน่นอน เพราะขาดแคลนน้ำเพื่อใช้ทำนา ส่งผลต่อเศรษฐกิจในชุมชน อีกทั้งยังมีปัญหาด้านการคมนาคมเพื่อขนส่งสินค้าเกษตร แต่หลังจากสถานีพัฒนาที่ดินพัทลุง สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 กรมพัฒนาที่ดิน เข้ามาสำรวจพื้นที่และสนับสนุนงบประมาณมาเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำ และสร้างเส้นทางคมนาคม ก็ทำให้เกษตรกรสามารถทำนาได้ปีละ 2 ครั้งสม่ำเสมอ การขนส่งสินค้าเกษตรสะดวกขึ้น นอกจากนี้ สถานีพัฒนาที่ดินพัทลุงยังให้คำแนะนำในการพัฒนาปรับปรุงบำรุงดินด้วยการทำปุ๋ยพืชสด ก็ทำให้สภาพดินอุดมสมบูรณ์ขึ้น ช่วยลดต้นทุนค่าปุ๋ย ได้เพิ่มผลผลิตเพิ่มขึ้น เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น

“ปัจจุบันเกษตรกรในพื้นที่บ้านร่มเมืองมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะมีน้ำเพียงพอต่อการทำเกษตร สามารถทำนาได้ปีละ 2 ครั้งสม่ำเสมอทุกปี สภาพดินในการทำเกษตรมีความอุดมสมบูรณ์ขึ้น ต้นทุนลดลง ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น เกษตรกรมีความสุข ขอขอบคุณกรมพัฒนาที่ดิน ที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้เกษตรกรจนสามารถทำกินบนที่ดินได้อย่างคุ้มค่า” นายคำพร กล่าว
จากความต่อเนื่องในการแก้ปัญหาของสถานีพัฒนาที่ดินพัทลุง ร่วมกับความเสียสละของคนในชุมชน เพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน คือความยั่งยืนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำให้วันนี้ ชุมชนบ้านร่มเมือง ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องการจัดการน้ำได้เป็นระบบ พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
