แตกใบอ่อน : ปฏิรูปสหกรณ์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/229889

807934531

วันพฤหัสบดี ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

วันจันทร์ที่ผ่านมามีข่าวที่ไม่เป็นข่าว เพราะถูกข่าวใหญ่อย่างผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญกลบเสียมิดชิด แต่ถือเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญและน่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะอาจส่งผลไปสู่การปฏิรูปขบวนการสหกรณ์ไทยในอนาคต

นั่นคือ การลงมติด้วยคะแนนเสียง 149 ต่อ 8 เสียง งดออกเสียง 16 เสียง ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เห็นชอบให้มีการ “ปฏิรูป” สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ตามแนวทางของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ

หลังจากก่อนหน้านี้เกิดปัญหา “ความโปร่งใส” ในการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนหลายแห่ง

โดยเฉพาะกรณีทุจริต สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่นที่ไม่ได้มีเพียงแค่มูลค่าความเสียหายเป็นตัวเลขหลักหมื่นล้านบาทเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบถึงเสถียรภาพของสหกรณ์ออมทรัพย์รายอื่นๆ ที่นำเงินมาฝากกินดอกเบี้ยอีกจำนวนมาก

ยังไม่นับรวมกับสมาชิกรายย่อยของทั้งสหกรณ์คลองจั่นและสหกรณ์อื่นๆ ที่ต้องได้รับผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่อีกไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนราย

สำหรับประเด็นที่คณะกรรมาธิการเสนอให้มีการปฏิรูปสหกรณ์ออมทรัพย์ และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว พอสรุปคร่าวๆ ได้ว่า ในอนาคตจะต้องมีการปฏิรูปใน 3 ด้านหลัก คือ การส่งเสริม การพัฒนา และการกำกับดูแล

โดยด้านการส่งเสริม จะมุ่งในประเด็นการส่งเสริมความเข้มแข็งของสหกรณ์ ให้ความรู้พื้นฐานทางการเงินกับสมาชิกและประชาชน ในการเก็บออมอย่างมีเป้าหมาย และการวางแผนทางการเงิน สำหรับช่วงวัยต่างๆ รวมไปถึงการลงทุนและประเมินความเสี่ยง การปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ ของสหกรณ์ที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน

ขณะที่ด้านการพัฒนา จะต้องมีการพัฒนาทั้งระบบไอทีระบบข้อมูล พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทางการเงิน กำหนดมาตรฐานคุณสมบัติของผู้บริหาร การปรับระบบบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ

วางประเด็นการกำกับดูแล ควรให้มีการแบ่งแยกหน่วยงานเพื่อการกำกับดูแลออกเป็นการกำกับดูแลด้านสหกรณ์ และการกำกับดูแลด้านความเป็นสถาบันการเงิน ซึ่งควรแบ่งเป็นระดับสหกรณ์ขนาดเล็กสินทรัพย์ต่ำกว่า 10 ล้านบาท และสหกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งระบบการกำกับดูแลจะต้องมีความชำนาญในการตรวจสอบที่สูงขึ้น รวมถึงผู้บริหารต้องมีความเชี่ยวชาญเพียงพอในการลงทุนด้วยที่สำคัญควรจัดตั้ง “สำนักงานกำกับสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน” ขึ้นมาดำเนินการในเรื่องนี้โดยเฉพาะ

โดยหลังจากนี้ สปท. จะมีการนำข้อสรุปดังกล่าว เสนอไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบและดำเนินการ ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องจับตาดูกันต่อไปว่า สุดท้ายแล้วโฉมหน้าของทิศทางการปฏิรูปสหกรณ์ออมทรัย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนบ้านเราจะออกมาอย่างไร และสามารถสร้างความโปร่งใสได้อย่างเป็นรูปธรรมได้จริงหรือไม่ ซึ่งอีกไม่นานคงได้รู้กัน

มะลิลา

Leave a comment