สหรัฐฯดำเนินการส่งตัว 15 นักโทษโดนกล่าวหาก่อการร้าย จากเรือนจำที่ฐานทัพเรือสหรัฐฯ บนอ่าวกวนตานาโม ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความโหดในการ ‘เปิดปาก’ นักโทษ ไปให้แก่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แล้ว

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน รัฐบาลสหรัฐฯ ส่งตัวนักโทษโดนกล่าวหาเกี่ยวข้องก่อการร้าย ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำในฐานทัพเรือสหรัฐฯ บนอ่าวกวนตานาโม จำนวน 15 คน ไปให้แก่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ (UAE,ยูเออี) ถือเป็นการส่งตัวนักโทษคราวเดียวจำนวนมากที่สุดในช่วงรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามาเลยทีเดียว

ขณะที่ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า นักโทษ 15 คน ที่ถูกส่งไปให้แก่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้น ประกอบด้วย นักโทษชาวเยเมน 12 คน และอัฟกานิสถานอีก 3 คน จึงทำให้มีนักโทษที่เรือนจำของสหรัฐฯ ที่อ่าวกวนตานาโมของคิวบา ลดลงเหลือเพียง 61 คน ซึ่งในจำนวนนี้ 20 คนได้รับอนุมัติให้ส่งตัวไปยังประเทศอื่น อีก 34 คน ยังถูกคุมขังที่นี่ต่อไป และ 7 คนกำลังเผชิญกับข้อหาก่ออาชญากรรมร้ายแรง

ข่าวแจ้งว่า นักโทษที่เรือนจำสหรัฐฯ บนอ่าวกวนตานาโมส่วนใหญ่ถูกจองจำควบคุมตัวโดยไม่มีการตั้งข้อหาตามกระบวนการยุติธรรม และนักโทษบางคนโดนจำคุกนานถึง 14 ปี โดยประธานาธิบดีโอบามาต้องการให้ปิดเรือนจำที่อ่าวกวนตานาโมก่อนที่เขาจะพ้นวาระดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ในปลายปีนี้

ทั้งนี้ เรือนจำที่ฐานทัพเรือสหรัฐฯ บนอ่าวกวนตานาโมเริ่มมีขึ้นในสมัยอดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช เมื่อเดือนมกราคม ปี 2545 ที่ประกาศทำสงครามกับกลุ่มก่อการร้าย จนนำไปสู่การทำสงครามในอัฟกานิสถาน หลังเกิดเหตุวินาศกรรมช็อกโลก ผู้ก่อการร้ายขับเครื่องบินชนตึกเวิลด์เทรด ในนครนิวยอร์ก เมื่อ 11 ก.ย.2554 โดยนับตั้งแต่มีเรือนจำแห่งนี้ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความโหดเหี้ยมในการทรมานสอบปากคำนักโทษนั้น มีชายที่ถูกต้องสงสัยร่วมก่อการร้ายถูกนำตัวมาคุมขังที่นี่ประมาณ 779 คน