ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/232453
วันอาทิตย์ ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
สวัสดีครับ ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีฝนตกหนัก มีน้ำท่วมขัง เป็นที่รำคาญใจเป็นอย่างมากใช่ไหมครับ สำหรับผู้รักสัตว์อย่างเราๆ แล้ว สิ่งที่ทำให้วิตกกังวลเป็นอย่างมากคือการป่วยของสัตว์ โดยในคลินิกรักษาสัตว์ในช่วงนี้พบสุนัขที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหารเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นท้องร่วงและบิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่ทำให้สุนัขเสียชีวิตกันมากนั่นคือ โรคลำไส้อักเสบติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัส วันนี้เรามาทำความรู้จักโรคนี้กันนะครับ
โรคลำไส้อักเสบติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัส หรือCanine viral enteritis นั้น เป็นความผิดปกติที่ระบบทางเดินอาหารคือ มีการอักเสบติดเชื้อที่สำไส้ เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงมากโดยเฉพาะในลูกสุนัขหรือ สุนัขที่ไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันมาก่อนเลย ไวรัสตัวนี้จะเข้าไปทำลายผนังทางเดินอาหารทำให้เกิดแผลลอกหลุด ทำให้การย่อยและดูดซึมอาหารสูญเสียไป
อาการ : มีการอาเจียนและถ่ายอย่างรุนแรง ซึมกินอาหารไม่ได้ ถ่ายเหลวพุ่ง โดยในระยะท้ายจะถ่ายเป็นเลือดกลิ่นเหม็นคาวจัด (คล้ายกลิ่นอาหารทะเลเน่า) อาการที่พบอีกอย่างหนึ่ง คือ การทำงานของระบบหายใจ รวมถึงระบบหัวใจและหลอดเลือด ล้มเหลว โดยเฉพาะในลูกสุนัข ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน การอาเจียนและท้องเสียอย่างรุนแรงมากนั้น อาจทำให้เกิดภาวะช็อก เนื่องจากการเสียน้ำ และเกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุล หรือมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนด้วย และที่สำคัญไวรัสตัวนี้จะทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน เกิดหัวใจล้มเหลว เกิดกล้ามเนื้อหัวใจตาย สุนัขจะเสียชีวิตแบบเฉียบพลันครับ

การติดต่อและการแพร่ระบาดของโรค : มักเกิดจาก การกินและการสัมผัสโดยตรง จากเชื้อไวรัสที่ปนเปื้อนในอุจจาระ ของสุนัขที่ป่วย หรือโดยการสัมผัสผ่านตัวพาหะสื่อกลาง เช่นติดเสื้อผ้าหรือรองเท้าของเจ้าของ หรือผ่านสัตว์อื่น เช่น นกที่บินมาเกาะชามอาหาร
การรักษา : เนื่องจากโรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส จึงไม่มียารักษาเฉพาะ ทำได้แค่รักษาเพียงแบบพยุงอาการ ชดเชยภาวะ การขาดน้ำ แร่ธาตุ และสารอาหาร รวมถึงการให้ยาปฏิชีวนะเพื่อควบคุมการติดเชื้อแทรกซ้อนและในปัจจุบันมีการรักษาโดยการให้ อินเตอร์เฟียรอน (interferon) ซึ่งเป็นโปรตีน ที่มีผลทำให้เซลล์ที่ถูกกระตุ้นนั้นอยู่ในสภาพ ที่ต้านไวรัส ซึ่งโดยปกติร่างกายจะสร้างสาร interferon นี้ขึ้นมาเองได้ แต่สัตว์ต้องอยู่ในสภาพที่แข็งแรงเพียงพอ ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีสัตวแพทย์นำมาใช้รักษามากขึ้น แต่ติดที่มีราคาค่อนข้างแพงมากครับ
การป้องกัน : สามารถทำได้โดยการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นวิธีการป้องกันที่ได้ผลดีมากวิธีหนึ่ง แม้จะไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่ก็เป็นการลดอัตราการเสี่ยงของการเกิดโรค ได้ การทำวัคซีนจะเริ่มทำตั้งแต่อายุ 6-8 สัปดาห์ (กระตุ้นซ้ำอีก 1-2 ครั้ง ห่างจากเข็มแรกประมาณ 1 เดือน และฉีดเป็นประจำทุกปี)
อีกประการหนึ่งคือ เนื่องจากเราอาจไม่สามารถป้องกันสุนัขของเราจากการติดโรคจากสภาพแวดล้อมได้ เช่น เมื่อพาสุนัขออกไปเดินเล่นหรือขับถ่าย สุนัขอาจดมหรือเลียสิ่งของผนัง พื้นถนนที่อาจมีเชื้อปนเปื้อนอยู่ซึ่งอาจติดเชื้อได้
และนอกจากนี้ สัตว์ตัวเล็กบางชนิด เช่น แมลงสาบ หนู หรือนกกระจอกที่มากินเศษอาหารที่เหลืออยู่ ในชามอาหารของสุนัข อาจไปสัมผัสกับอุจจาระที่มีเชื้อไวรัส ปนเปื้อนมาก่อนซึ่งก็เป็นการนำเชื้อมาให้สุนัขของเราทางอ้อมได้ ดังนั้น การล้างชามอาหารและคว่ำให้แห้งทุกครั้ง หลังจากที่สุนัขกินเสร็จ ก็เป็นวิธีป้องกันอีกทางหนึ่งครับ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
