รายงานพิเศษ : ส่งเสริมเกษตรกรทำนา‘ขั้นบันได’ ช่วยลดต้นทุน–ผลผลิตเพิ่ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/232944

วันพุธ ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

ที่ผ่านมาเกษตรกรส่วนใหญ่ที่มีพื้นที่ทำเกษตรกรรมบนพื้นที่สูง ยังมีการใช้ประโยชน์ที่ดินไม่สอดคล้องกับสมรรถนะของที่ดิน ทำการเพาะปลูกโดยขาดหลักการอนุรักษ์ดินและน้ำ ขาดการบำรุงดินอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะในพื้นที่ดอนและพื้นที่ที่มีความลาดชันมากจะมีอัตราการชะล้างพังทลายของดินเกิดขึ้นสูง

กรมพัฒนาที่ดิน จึงได้แนะนำให้เกษตรกรหันมาปรับรูปแปลงเกษตรให้มีสภาพพื้นที่เหมาะสมกับการเพาะปลูก เช่น การทำนาขั้นบันได เป็นการทำนาบนพื้นที่สูง โดยทำการขุดและปรับสภาพพื้นที่เพาะปลูก ซึ่งเคยใช้ปลูกข้าวไร่หรือพืชไร่อื่นๆ ปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ทำนา ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่ง ในการลดปัญหาการทำไร่เลื่อนลอย โดยใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินชนิดต่างๆ ช่วยเพิ่มผลผลิตข้าว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารบนพื้นที่สูงได้อย่างยั่งยืน

นายสุรเดช เตียวตระกูล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า ในอดีต พื้นที่ ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติฯ จ.น่าน เป็นพื้นที่หนึ่งที่เกษตรกรที่นี่นิยมปลูกข้าวไร่ เพื่อใช้บริโภคภายในครัวเรือนมีการตัดไม้ทำลายป่า ทำให้สภาพดินเกิดการเสื่อมโทรม จึงได้รณรงค์ส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่มีการปรับพื้นที่เพื่อทำนาขั้นบันได สนับสนุนการปรับปรุงบำรุงดินโดยใช้ปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกข้าว

“เพราะการทำนาขั้นบันไดนั้น นอกจากจะเป็นวิธีหนึ่งในการอนุรักษ์ดินและน้ำบนพื้นที่สูงแล้ว เกษตรกรยังใช้ประโยชน์พื้นที่ในการปลูกข้าวนาน้ำขัง ข้าวไร่ และพืชผักต่างๆ เพื่อบริโภคในครัวเรือน ทำให้ปัจจุบันเกษตรกรมีความสนใจ และเริ่มปรับตัวหันมาทำนาข้าวแบบขั้นบันได้กันมากขึ้น” อธิบดีกรมพัฒนาที่ดินกล่าว

นายฉัตรชัย บัวแสน เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาขั้นบันได อ.เฉลิมพระเกียรติฯจ.น่าน กล่าวว่า ตนได้เปลี่ยนความคิดจากการทำข้าวไร่ในพื้นที่การเกษตรที่มีความลาดชันสูง แล้วปรับรูปแปลงนาเป็นขั้นบันได เพื่อปลูกข้าวนาปี โดยมีนักวิชาการเกษตรจากสถานีพัฒนาที่ดินน่าน เข้ามาส่งเสริมความรู้ในการวางแผน การวางแนวระดับในการทำนาขั้นบันได และวางแผนช่วงทางเดินน้ำเพื่อนำมาใช้ในแปลง ซึ่งหากเปรียบเทียบการปลูกข้าวไร่กับการทำนาแบบขั้นบันได พบว่า การปลูกข้าวไร่จะได้ผลผลิตน้อย โดยได้เพียง 15 ถัง/ไร่ แต่หลังจากเปลี่ยนมาทำนาขั้นบันได ผลผลิตที่ได้สูงขึ้นเป็น 45 ถัง/ไร่ โดยมีการปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยหมัก และน้ำหมักชีวภาพควบคู่ไปด้วย

“การทำนาขั้นบันไดเป็นรูปแบบที่เหมาะสมกับการปลูกข้าวในพื้นที่ลาดชันเพราะนอกจากจะช่วยลดต้นทุนในการผลิตแล้ว ระบบน้ำที่ใช้ปลูก จะเป็นระบบน้ำขัง โดยน้ำจะเป็นน้ำจากป่าต้นน้ำ ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ จึงไม่ต้องใช้เครื่องสูบน้ำ และสามารถช่วยลดการเกิดวัชพืชในนาข้าว อีกทั้งยังนำความรู้เรื่องการทำปุ๋ยหมัก และน้ำหมักชีวภาพที่ได้จากเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดินมาปรับใช้ในแปลงเกษตร ส่งผลให้ผลผลิตงอกงาม และมีเกษตรกรเพื่อนบ้านเข้ามาดูตัวอย่างการทำนาในรูปแบบขั้นบันไดและนวัตกรรมของกรมพัฒนาที่ดินในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง” นายฉัตรชัย กล่าวทิ้งท้าย

 

Leave a comment