ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/233098

วันพฤหัสบดี ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
คลอดออกมาแล้ว 10 ตำแหน่ง สำหรับโผแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 “ลอตแรก” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งส่วนใหญ่แทบไม่ต่างไปจากโผที่ถูกปล่อยข่าวออกมาก่อนหน้านี้ไปสักกี่มากน้อย โดยรายชื่อทั้ง 10 เก้าอี้ ประกอบด้วย “สุรพงษ์ เจียสกุล” ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวมาตลอดอยู่แล้วว่า ยังไงก็ต้องหลุดจากเก้าอี้ “เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร” (สศก.) ซึ่งก็ไม่พลาด เมื่อท้ายที่สุดถูกจับมาอยู่ในตำแหน่งรองปลัดกระทรวงฯแทน
ส่วนอีก 9 คน ประกอบด้วย “นำชัย พรหมมีชัย” จากผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ขึ้นเป็นรองปลัดกระทรวงฯ เช่นเดียวกับ “ธนิต เอนกวิทย์” ผู้ตรวจราชการฯที่ได้ขึ้นเป็นรองปลัดกระทรวงฯ ขณะที่ “สมชาย ชาญณรงค์กุล” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ยังได้ดีถูกย้ายไปนั่งอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
รายต่อมา คือ “สมปอง อินทร์ทอง” อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และอดีตรองเลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) ที่แบเบอร์มาตั้งแต่ต้นที่จะได้กลับบ้านเดิมในเก้าอี้เลขาธิการ ส.ป.ก. เพื่อไปรับงานสำคัญ คือ การสานต่องานทวงคืนที่ดินจากกลุ่มนายทุนและผู้บุกรุก
“อภัย สุทธิสังข์” อธิบดีกรมหม่อนไหม เป็นอธิบดีกรมปศุสัตว์ ซึ่งเป็นงานถนัดเนื่องจากเคยนั่งเก้าอี้รองอธิบดีกรมนี้มาก่อน “บริสุทธิ์ เปรมประพันธ์” จากรองปลัดกระทรวงฯ เป็นอธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ “สุวิทย์ ชัยเกียรติยศ” ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ เป็นอธิบดีกรมวิชาการเกษตร “สุดารัตน์ วัชรคุปต์ เหล่าวิชยา” จากผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ เป็นอธิบดีกรมหม่อนไหม
และสุดท้ายคือ “สัญชัย เกตุวรชัย” ที่ก่อนหน้านี้ “บิ๊กฉัตร” พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ อุตส่าห์ลงทุนลงแรงโยกจากผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ไปนั่งเก้าอี้ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านวางแผนและโครงการ) กรมชลประทาน เพื่อรอขึ้นเป็นอธิบดีกรมชลประทาน ก็เข้าวินไปอย่างไม่ยากลำบาก
อย่างไรก็ตาม ดังที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนต้นว่า รายชื่อโยกย้ายทั้ง 10 ตำแหน่งนี้ เป็นเพียงการโยกย้ายระดับผู้บริหารลอตแรกเท่านั้น เพราะดังที่ทราบกันอยู่แล้วว่า สิ้นเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ จะมีข้าราชการระดับซี 10 ในกระทรวงเกษตรฯ เกษียณอายุราชการถึง 12 ตำแหน่ง อาทิ “สุเทพ น้อยไพโรจน์” อธิบดีกรมชลประทาน “เลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์” อธิบดีกรมฝนหลวง “สรรเสริญ อัจจุตมานัส” เลขาธิการ ส.ป.ก. และ “โอฬาร พิทักษ์” อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
และนี่ก็ยังไม่นับรวมคนที่ตกอยู่ในกระแสข่าวบัญชีดำที่อาจถูกโยกย้ายพ้นเก้าอี้อธิบดีอีก 2-3 คน เช่น “สุรพงษ์ เจียสกุล” เลขาธิการ สศก. “สุรเดช เตียวตระกูล” อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน และ “วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยในรายของเลขาธิการ สศก. นั้น เรียบร้อยโรงเรียน “บิ๊กฉัตร” ไปแล้วตั้งแต่การโยกย้ายในลอตแรก
ส่วนอีก 2 ท่านหลังนี้ยังคงต้องมานั่งลุ้นกันต่อว่า ท้ายที่สุดแล้วจะออกหัวหรือออกก้อย
แต่ที่น่าจับตาไม่น้อยไปกว่ากรมอื่นๆ คือ เก้าอี้ “อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร” ว่าท้ายที่สุดแล้ว “ใคร” จะเป็นผู้มาดำรงตำแหน่งแทนคุณเลอศักดิ์ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการ โดยตามกระแสข่าวที่ออกมาล่าสุดมีชื่อหลุดออกมา คือ “เลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ” รองปลัดกระทรวงฯ และอดีตอธิบดีกรมชลประทาน ซึ่งถ้าชื่อนี้มาจริงก็อาจจะต้องระวังว่า กรมฝนหลวงฯ มีสิทธิจะวงแตกเอาง่ายๆ
กรมฝนหลวงฯ เป็นกรมสำคัญนะครับ เพราะเปรียบได้กับหน่วยงานที่ต้องบริหารจัดการน้ำจากบนฟ้า เพื่อเอามาทำน้ำต้นทุนให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงช่วยบรรเทาภัยแล้ง ช่วยดับไฟป่า แก้ปัญหาหมอกควัน ซึ่งการบริหารจัดการน้ำ
จากฟ้าดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ อาศัยผู้บริหารที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ “เฉพาะด้าน” อยู่พอสมควร
แต่กรมฝนหลวงฯกลับเหมือนมีกรรม ก่อนหน้านี้ก็ถูกทิ้งให้เก้าอี้อธิบดีว่าได้เป็นปีๆ ครั้งพอจะตั้งใครขึ้นมานั่งเก้าอี้บริหาร ก็กลับไปนำคนมาบริหารแบบ “ผิดฝาผิดตัว” สุดท้ายภาระหนักก็ต้องยังไปตกอยู่ที่รองอธิบดีเหมือนเดิม
เพราะฉะนั้นต้องจับตากันให้ดี ถ้าตัวอธิบดีคนใหม่ยังเป็นไปตามโผ ระวังอาจจะได้เห็นรองอธิบดียื่นใบลาออกตามมาก็ได้ เพราะทำงานกันแทบตายแต่ผู้บริหารกลับไม่เคยเห็นหัว
เป็นผม ผมก็ไม่อยู่ครับ
มะลิลา