ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/234363
วันศุกร์ ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
จากการที่สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 4 (สวพ.4) กรมวิชาการเกษตร ได้ร่วมมือกับบริษัท เทสโก้ โลตัส เดินหน้านโยบายประชารัฐจัดงานมหกรรมสินค้าเกษตรปลอดภัยภายใต้ระบบ GAP “ผัก ผลไม้ GAP ปลูกดี กินปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพ ที่ เทสโก้ โลตัส” จ.อุบลราชธานีไปเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อรณรงค์ให้ผู้บริโภครู้จักและเลือกบริโภคสินค้าที่ผ่านการรับรอง GAP และตราสัญลักษณ์ Qได้เป็นจุดเริ่มต้นสู่การเชื่อมโยงจับคู่ธุรกิจ พัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรให้เป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น
ดร.อุดม คำชา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 4 กล่าวว่า จากกิจกรรมดังกล่าวนอกจากผู้บริโภคจะได้รับทราบถึงระบบการตรวจรับรองแหล่งผลิต GAP และตราสัญลักษณ์ Q เพื่อสร้างความมั่นใจในการบริโภคสินค้าที่มีคุณภาพปลอดภัยแล้วสิ่งสำคัญคือมีการจับคู่ธุรกิจ GAPBusinessMatching เป็นกิจกรรมที่เกษตรกรได้พบปะกับผู้บริหารของบริษัท เทสโก้โลตัส เพื่อเจรจาธุรกิจการค้า และประสานความร่วมมือกับเกษตรกรในการผลิตผักและผลไม้ปลอดภัยได้ตรงกับความต้องการของตลาด
จากจุดเริ่มต้นของการจับคู่ธุรกิจ GAPBusiness Matching ในครั้งนั้นได้มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ภายใต้นโยบายประชารัฐอย่างเป็นรูปธรรมจนกระทั่งสามารถเชื่อมโยงตลาดให้กับเกษตรกรผู้ปลูกเมล่อน GAP จ.บุรีรัมย์ โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรบุรีรัมย์ สวพ.4 ร่วมกับ สำนักผู้เชี่ยวชาญ นางสาวนิลวรรณ ลีอังกูรเสถียร นางนุชนารถ ตั้งจิตสมคิด นายสุกิจ รัตนศรีวงษ์ และบริษัทเทสโก้ โลตัส ได้ลงพื้นที่เพื่อประเมินศักยภาพของเกษตรกรและเครือข่ายผู้ผลิตเมล่อน GAP อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ สรุปผลการเจรจาสามารถบรรลุข้อตกลงเงื่อนไขในการผลิตเมล่อน GAP ทั้งด้านคุณภาพและปริมาณตามความต้องการของบริษัทเทสโก้ โลตัส
บริษัทเทสโก้ โลตัส ซึ่งมีแผนการที่จะให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่หลักในการผลิตผัก และผลไม้ปลอดภัยมาตรฐาน GAP สำหรับป้อนตลาดในภาคเหนือ ซึ่งจะเป็นโอกาสในการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของเกษตรกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้น บริษัทเทสโก้ โลตัส จึงได้ตกลงรับซื้อผลผลิตเมล่อน GAP จากนายพีระพงษ์เฮงสวัสดิ์ ตัวแทนกลุ่มเกษตรกร จ.บุรีรัมย์ ปริมาณ 15 ตันต่อสัปดาห์ แต่จากการประชุมเสวนาเกษตรกรผู้ปลูกเมล่อน เพื่อหาประเด็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับเกษตรกร พบว่าเกษตรกรยังขาดเทคโนโลยี เช่น การจัดการน้ำ การจัดการปุ๋ย และการอารักพืช เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ดร.วราภรณ์พรหมพจน์ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแปลงเมล่อนพร้อมกับเสวนากับเกษตรกรที่ อ.พุทไธสง และอ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ จึงมีนโยบายให้ทำโรงเรือนแบบประหยัดเพื่อลดต้นทุน อีกทั้งยังให้จัดทำแปลงเรียนรู้ด้านโรงเรือน การจัดการน้ำ การจัดการปุ๋ย และการอารักพืชโดยใช้เทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตรร่วมทดสอบกับเกษตรกรผู้ปลูกเมล่อนในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่มือเกษตรกรโดยการบูรณาการระหว่างหน่วยงานวิจัยกรมวิชาการเกษตร เกษตรกร และบริษัทเทสโก้ โลตัส เพื่อผลักดันสินค้าเกษตรปลอดภัยภายใต้ระบบ GAP ให้ก้าวสู่ตลาดสากล เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ของเกษตรกรไทย
