เกษตรฯสั่งเร่งเติมน้ำ4เขื่อนหลัก ระดมฝนหลวงเหนือพื้นที่อ่าง

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/234362

วันศุกร์ ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการจำลองสถานการณ์น้ำ คาดการณ์ว่า ในวันที่ 1 พฤศจิกายน จะมีปริมาณน้ำใช้การได้ใน 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา 7,683 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) โดยเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำใช้การ 5,837 ล้านลบ.ม.เขื่อนแควน้อย 896 ล้านลบ.ม. และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 950 ล้านลบ.ม. โดยมีแผนจัดสรรเพื่อการอุปโภค-บริโภคในฤดูแล้ง เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ รวมทั้งกันไว้สำหรับการเพาะปลูกและอุปโภคบริโภคช่วงต้นฤดูฝนรวม 3,800 ล้าน ลบ.ม. หักลบแล้วมีปริมาณน้ำ 3,883 ล้าน ลบ.ม. แต่ยังต้องสำรองไว้สำหรับการอุปโภค-บริโภค รักษาระบบนิเวศน์ และการเตรียมแปลงเพาะปลูกในช่วงต้นฤดูฝนปี 2560 อีก 3,550 ล้าน ลบ.ม. คงเหลือปริมาณน้ำใช้การได้ในลุ่มเจ้าพระยา 333 ล้าน ลบ.ม.

จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรโดยรวมของประเทศ จึงได้มอบหมายให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เร่งดำเนินการเติมน้ำ 4 เขื่อนหลัก ซึ่งจากผลการดำเนินงานของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ตั้งแต่ 15 ก.พ. 2559-30 ส.ค. 2559 มีพื้นที่ได้รับการช่วยเหลือ รวม 159.125 ล้านไร่ มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนสะสม รวม 35 เขื่อน 1,856.44 ล้าน ลบ.ม.และมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนสะสม รวม 4 เขื่อนหลัก 1,305.98 ล้าน ลบ.ม. โดยแบ่งเป็น เขื่อนภูมิพล 698.25 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์ 463.67 ล้าน ลบ.ม.เขื่อนแควน้อยฯ 53.16 ล้าน ลบ.ม.และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 90.9 ล้าน ลบ.ม.

อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนสะสมของทั้ง 4 เขื่อนหลักถือว่ามีปริมาณที่น้อยมาก โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพล ดังนั้น เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร จึงเน้นเติมน้ำในเขื่อนภูมิพลเป็นหลัก เนื่องจากเป็นเขื่อนใหญ่และมีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย และกำหนดให้กรมฝนหลวงฯ เตรียมแผนรับมือฝนทิ้งช่วงเดือนกันยายนและตุลาคม 2559 ไว้เรียบร้อยแล้วโดยเร่งปฏิบัติการเติมน้ำเขื่อนภูมิพล ด้วยการระดมหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ ที่กองบิน 41 ชนิดกาซ่า จำนวน 2 เครื่อง หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดตาก ที่ท่าอากาศยานตาก มีเครื่องบินชนิดกาซ่าจำนวน 2 เครื่อง หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก ที่กองบิน 46 มีเครื่องบินรวม 4 เครื่อง ได้แก่ ชนิดกาซ่า 1 เครื่อง ชนิดซุปเปอร์คิงแอร์ 1 เครื่อง และปรับแผนการดำเนินงานโดยเพิ่มเครื่องบินชนิดเอยู-23 (กองทัพอากาศ) 2 เครื่อง รวมทั้งหมด 8 เครื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการฝนหลวง

Leave a comment