ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 20 ก.ย. 2559 22:50
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/728955

นายจิระชัย ปั้นกระษิณ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุง แคนเบอร์ร่า ,นางอรวรรณ โกศะรถ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานและคณะกรรมการโครงการบรรพชาอุปสมบท ณ พุทธคยา ประเทศอินเดียภาพข่าว
เมื่อวันที่ 18 กันยายน นายณัฐพันธ์ ตรีเมฆ ผู้สื่อข่าวไทยัฐ ประจำประเทศออสเตรเลีย รายงานมาว่า ชุมชนไทยในซิดนีย์ ได้ร่วมกันจัดงาน “ร่วมใจร่วมบุญร่วมสมทบทุนเป็นเจ้าภาพโครงการบรรพชาอุปสมบท ณ พุทธคยา ประเทศอินเดีย ครั้งที่ 2” ซึ่งจัดให้มีขึ้นที่แพดดิงตัน อาร์เอสแอล คลับ ซิดนีย์ โดยมีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศนิวซีแลนด์ , นายจิระชัย ปั้นกระษิณ เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศออสเตรเลีย , นายณัฐพล ขันธหิรัญ กงสุลใหญ่ประจำนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ร่วมกันเป็นที่ปรึกษากิติมศักดิ์ของโครงการ มาร่วมงานด้วย โดยวัตถุประสงค์ในการจัดงานในครั้งนี้ก็เพื่อหารายได้มาสำทบทุน เป็นค่าใช้จ่ายในการสานต่อโครงการ ซึ่งในปีนี้จะมีพระ และเณรร่วมบรรพชาอุปสมบท จำนวน 9 รูป ณ พุทธคยา ประเทศอินเดียถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมายุ 89 พรรษาระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2559 ถึง 7 มกราคม 2560 โดยมีพระเทพสีลาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธรังษี ลูเมียห์ ประธานโครงการ และพระราชสีลาภรณ์ วัดธัมธโร แคนเบอร์ร่า,พระครูวิเทศธรรมานุศาสน์ วัดพุทธรังษี แอนนาเดล ,พระวิเทศธรรมญาณ วัดพุทธรังษี แสตนมอร์ ที่ปรึกษากิติมศักดิ์ฝ่ายพระสงฆ์

สำหรับความเป็นมาของโครงการบรรพชาอุปสมบทอินเดียนั้น นางณิชาภา ธรรมสิรภพ (เลขานุการและประสานงานของโครงการ) ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “ครั้งแรกนั้น เริ่มขึ้นเมื่อเดือนมกราคม 2557 โดยมีผู้ร่วมบรรพชาสามเณร 9 รูป และอุปสมบทพระภิกษุ 2 รูป พร้อมคณะผู้ร่วมแสวงบุญอีก 13 คน โดยในครั้งนั้นท่านเจ้าคุณพระเทพโพธิวิเทศ เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย และหัวหน้าพระธรรมทูตสายอินเดีย เนปาล ได้รับมอบเงินจากคณะในโครงการถวายผ้าป่าสำหรับวัดไทยพุทธคยา ซึ่งท่านเจ้าคุณพระเทพโพธิวิเทศ ท่านมีเมตตาจิตโดยนำเงินทั้งหมดนั้นกลับมาให้เพื่อเป็นทุนสำหรับทำโครงการนี้ในปีต่อไป จึงเป็นการสร้างสัมพันธ์และปูพื้นฐานทางพุทธศาสนาระหว่างประเทศออสเตรเลียและประเทศอินเดียให้เป็นปึกแผ่นมากยิ่งขึ้น จึงเป็นที่มาให้ทางคณะกรรมการได้จัดทำโครงการบรรพชาอุปสมบทอินเดียขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 2 ตามประสงค์จากท่านเจ้าคุณฯ และได้จัดให้โครงการนี้เป็นโครงการของชุมชนไทยอย่างแท้จริง โดยเปิดกว้างให้ชุมชนไทยได้มีส่วนร่วมทั้งผู้ร่วมบวชในโครงการ และผู้ร่วมเดินทางแสวงบุญกับโครงการ รวมทั้งการร่วมบุญของชุมชนไทยอีกด้วย โดยพร้อมกันนี้ร่วมถวายให้เป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนม 89 พรรษา และทรงครองราชย์ครบ 70 ปีอีกด้วย

ซึ่งทางโครงการได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าคุณพระเทพสีลาภรณ์ เป็นประธานโครงการ นอกจากนี้ยังได้รับความสนับสนุนจากเจ้าอาวาสวัดพุทธรังษี แอนนาเดล, วัดธัมมธโร กรุงแคนเบอร์ร่า มาร่วมเป็นที่ปรึกษากิติมศักดิ์ ฝ่ายสงฆ์ ร่วมถึงวัดพระยอดแก้ว แคบบรามาต้า ท่านเจ้าอาวาสก็เมตตาให้ทำผ้าป่าช่วยเหลือโครงการ ส่วนที่ปรึกษากิติมศักดิ์ฝ่ายฆราวาส จะมีท่านทูตจิระชัย ปั้นกระษิณ, ท่านทูตมาริษ เสงี่ยมพงษ์, ท่านกงสุลใหญ่ณัฐพล ขันธหิรัญ, คุณวิโรจน์ ศิริโหราชัย , หน่วยราชการไทยทั้งซิดนีย์ และทางประเทศไทย โครงการนี้ได้จัดตั้งกรรมการดำเนินงานขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจากหลายๆท่าน โดยมีคุณอรวรรณ โกศะรถ เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินงาน มีดิฉันทำหน้าที่ (เลขาโครงการและประสานงาน) ฝ่ายการเงินได้แก่ คุณอรวรรณ โกศะรถ, คุณกิติภูมิ ธรรมสิรภพ และคุณแองเจริก้า คาซาโด้ นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการฝ่ายหาทุน, ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสื่อต่างๆช่วยประชาสัมพันธ์มาโดยตลอด ขอขอบคุณมา ณ ที่นี่ด้วย

โดยทางโครงการจะเป็นผู้หาทุนให้ ซึ่งจะมีค่าโดยสารเครื่องบินจากซิดนีย์ กรุงเทพ อินเดีย ค่าทัวร์ที่พัก ค่าอาหาร จะต้องจ่ายจำนวน $3000 ค่าเครื่องอัฐบริขาร $398 รวมแล้วเป็นเงิน $3398 ต่อคน ซึ่งผู้บวชจะร่วมบุญเพียง $500 ส่วนที่เหลือทางโครงการจ่ายให้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีค่าที่พักที่กรุงเทพฯเมื่อไปถึงและขากลับ การถวายผ้าป่าในแต่ละวัดที่คณะเดินทางไปพักทั้งสี่สังเวชนียสถาน และอื่นๆ ซึ่งทางโครงการจะต้องหาทุนสำหรับค่าใช้จ่าย ทางคณะกรรมการแต่ละท่านที่ร่วมเดินทางไปกับโครงการจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเอง โดยทางโครงการได้จัดงานขึ้นในวันอาทิตยที่ 18 กันยายนนี้ เพื่อร่วมใจร่วมบุญร่วมสมทบทุนเป็นเจ้าภาพผู้บวชในโครงการจำนวน 9 รูป ในงานนี้ได้รับความร่วมมือจากท่านเจ้าของกิจการ ร้านอาหาร ร่วมเป็นสปอนเซอร์ ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพผู้บวช การจัดงานนี้ไม่มีดารานักร้อง เป็นการขายบัตรทานอาหารราคา $30 โดยมีผู้ร่วมบุญทำอาหารมาให้ เจ้าของร้านอาหารและบางท่าน ทำขนม มาให้ ได้รับเกียรติจากนักร้องกิติมศักดิ์จากแคนเบอร์ร่า, การแสดงและความบันเทิงจากชุมชนไทยท้องถิ่น เช่น ตั้ม สัญญา ฟ้าอุทัย วงดนตรีรากไทยร่วมกับคณะวีร็อค ร่วมให้ความบันเทิง แดนเซอร์จากสยามคลาสิคอลแดนซ์ การแสดงจากนักเรียนจาก กลุ่ม ATYAP การประกวดการแต่งกายอินเดียชุดชาย และหญิง ซึ่งได้รับการร่วมมืออย่างดีมีผู้ร่วมประกวดสร้างสีสรรค์ให้กับงานอย่างมาก การช่วยเหลือจากชุมชนไทยในการร่วมบุญนี้ เป็นการทำงานร่วมกัน ทั้งภาครัฐและชุมชนไทย ท่านกงสุลใหญ่ณัฐพล ขันธหิรัญ ให้ความช่วยเหลือโครงการเป็นอย่างมากติดต่อประสานงาน เข้าร่วมประชุมทุกครั้งที่คณะกรรมการจัดประชุม และยื่นมือช่วยเหลือเพื่อให้โครงการได้ดำเนินการอย่างราบรื่น ทางคณะกรรมการขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมสนับสนุนโครงการเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา และเพื่อครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้กราบสักการะสถานที่สำคัญในพุทธประวัติ ขออนุโมทนาบุญทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยคะ”

ส่วนทางด้านหน่วยราชการไทยในซิดนีย์ นายณัฐพล ขันธหิรัญ กงสุลใหญ่ประจำนครซิดนีย์ ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “สำหรับโครงการบรรพชาอุปสมบท ณ พุทธคยา ประเทศอินเดียทางสถานกงสุลใหญ่ก็ได้เป็นที่ปรึกษามาโดยตลอด จนมาถึงปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 2 แล้วก็ยังเป็นที่ปรึกษาเช่นเดิม ซึ่งก็ได้เล็งเห็นว่า เป็นโครงการที่ดีมากอีกโครงการหนึ่งของทางชุมชนไทยในซิดนีย์ ที่ทางสถานกงสุลใหญ่จะให้การสนุบสนุนเพราะ เกี่ยวเนื่องอยู่ 2 ประเด็นหลักคือ 1.เป็นการอุปสมบทเยาวชนไทยที่เกิดในประเทศออสเตรเลียให้ได้รู้จัก และซึมซับกับพุทธศาสนาให้ได้มีโอกาสได้เรียนรู้ในวิถีแห่งพุทธศาสนิกชน ซึ่งเป็นรากเง่าของคนไทยได้อย่างแท้จริง และสามารถทำให้คงความเป็นไทยไว้ และในอนาคต พวกเขาก็จะกลับมาช่วยพัฒนาประเทศของเราต่อไป 2.ทำเพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงครองราชย์ครบ 70 ปีในปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงปีที่เราควรจะเฉลิมฉลองเพื่อถวายพระเกียรติอีกด้วยครับ”

นอกจากนี้นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งเดินทางมาร่วมงานในฐานะที่ปรึกษากิติมศักดิ์ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า”ซึ่งตอนนั้นในปีแรกผมเป็นทูตประจำอยู่ที่กรุงแคนเบอร์รา ก็ได้เข้ามาเป็นที่ปรึกษาของโครงการนี้ใน และได้มีโอกาสเป็นผู้บรรยายเรื่องสถานที่ ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ทั้งที่ซิดนีย์ และประเทศไทย ซึ่งเป็นการริเริ่มของชุมชนไทยเอง และเราเป็นหน่วยราชการ จึงเข้ามาเป็นที่ปรึกษาและให้ความช่วยเหลือ ซึ่งก็ขอชื่นชมในความตั้งใจด้วย และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ทำให้เยาวชนไทยที่เกิดในประเทศออสเตรเลีย ได้มีโอกาส ได้ไปเรียนรู้ศาสนาเป็นการทำให้ได้ใกล้ชิดพุทธศาสนา ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมีโอกาสแบบนี้ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งต้องมีทั้งบุญมีทั้งการสนับสนุนของครอบครัวบุคคลต่างๆ อย่างยิ่งใหญ่หลังจากนั้นทำให้มีคณะพระอุปชา,พระธรรมทูตที่อยู่ในประเทศอินเดีย และประเทศเนปาลได้เดินทางมาเยี่ยมเพื่อมาดูว่าชุมชนไทยที่นี่อยู่กันอย่างไร และเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ทางพุทธศาสนาเนื่องจากว่าโครงการของพระธรรมทูตอินเดียและประเทศเนปาลประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากโดยมีผู้แสวงบุญชาวไทยเดินทางไปประเทศอินเดียและเนปาล ปีละเป็นจำนวนมากเพื่อไปแสวงบุญกันครับ

ส่วนทางด้านข้าราชการทหารเรือ นาวาเอก อภิชัย สมพลกรัง ผชท.ทร.ไทย ณ กรุงแคนเบอร์รา ซึ่งประจำการอยู่ที่แคนเบอร์ราปีที่ 3 แล้วและจะเดินทางกลับ ภายในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ ทางผู้สื่อข่าวไทยรัฐจึงถือโอกาสสอบถามถึงโครงการดีๆที่ได้ทำการสานต่อจนประสบผลสำเร็จว่ามีอะไรบ้าง”สำหรับโครงการที่สานต่อหลังจากการเข้ารับตำแหน่งคือโครงการ “สานใจไทยสู่ใจใต้”ที่กองทัพเรือทำในส่วนบำรุงขวัญข้าราชการกองทัพเรือที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีการปะทะได้รับบาดเจ็บ ทางชาวไทยที่อาศัยอยู่ในซิดนีย์ โดยพลเรือโท จุมพล ลุมพิกานนท์ตอนที่ท่านเป็นผบ.หมู่เรือฝึกท่านมา และท่านได้ประสานกับชุมชนไทยในซิดนีย์ช่วยในการจัดทำหารายได้และก็ได้รับการช่วยสำทับทบทุนเป็นเงินช่วยเหลือจากการจัดคอนเสิร์ต เป็นจำนวนสี่หมื่นกว่าเหรียญ ส่วนโครงการใหม่ๆที่ได้จัดทำขึ้นก็เป็นความร่วมมือกับกองทัพเรือประเทศออสเตรเลียซึ่งจะมีการฝึกร่วมกันระหว่างทหารเรือไทยกับทหารเรือออสเตรเลียซึ่งในเดือนกันยายนนี้ก็จะเป็นการฝึกในประเทศออสเตรเลียส่วนในปีหน้าก็จะเป็นการฝึกออสไทยซึ่งกองทัพเรือออสเตรเลียก็จะส่งเรือเข้าร่วมในส่วนของการฝึกออสไทยและก็ร่วมในส่วนของการสวนสนามครบรอบ 50 ปีของการก่อตั้งอาเซียนที่เมืองพัทยาประมาณเดือนพฤศจิกายน ปี2560 นี้ครับ




