โพลชี้ ไมค์ เพนซ์ จากรีพับลิกัน ชนะศึกดีเบตว่าที่รองปธน.สหรัฐฯ​

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 5 ต.ค. 2559 14:51

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/744306

 

โดนัลด์ ทรัมป์ ยิ้มออก ชม ไมค์ เพนซ์ ชนะครั้งใหญ่ในศึกดีเบตครั้งแรกและครั้งเดียวของสองว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ ทิม เคน จากพรรคเดโมแครต แสดงความก้าวร้าวระหว่างการโต้วาทีมากเกินไป

เมื่อ 5 ต.ค.59 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานศึกดีเบต โต้วาทีประชันวิสัยทัศน์ครั้งแรกและครั้งเดียวของ 2 ว่าที่รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016 ระหว่างนายไมค์ เพนซ์ ผู้ว่าการรัฐอินเดียนา จากพรรครีพับลิกัน กับนายทิม เคน วุฒิสมาชิกรัฐเวอร์จิเนีย ที่ได้นั่งประจันหน้า ปะทะฝีปากกันอย่างดุเดือดในศึกดีเบต ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยลองวูด เมืองฟาร์มวิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย เป็นเวลา 90 นาที และมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์เมื่อค่ำคืนของวันอังคารที่ 4 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเช้าของวันที่ 5 ต.ค. ของไทย โดยมี น.ส.อีเลน ควีฮาโน ผู้ประกาศข่าวช่องสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ


นายทิม เคน จากพรรคเดโมแครต(ซ้าย)และนายไมค์ เพนซ์ จับมือทักทายก่อนเริ่มดีเบต

การดีเบตของไมค์ เพนซ์ และทิม เคน เป็นการประชันวิสัยทัศน์กันในหลายเรื่อง ทั้งเกี่ยวกับความมั่นคง เศรษฐกิจ คนเข้าเมือง และประเด็นอื่นๆ ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีการขัดจังหวะกันแทบตลอดเวลา รวมทั้งการแก้ต่างข้อกล่าวหาโจมตีผู้สมัครชิงประธานาธิบดี โดยโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน กำลังถูกแฉในเรื่องเลี่ยงการจ่ายภาษีเป็นเวลาหลายปี


น.ส.อีเลน ควีฮาโน ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการดีเบตในครั้งนี้

เว็บไซต์ อัลจาซีรา รายงาน นายบิลล์ ชไนเดอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองในสหรัฐฯแสดงความเห็นว่า ทิม เคน แสดงความก้าวร้าวมาก ซึ่งเขาไม่มั่นใจว่าจะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมหรือไม่

ขณะที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รวมทั้งสื่อหลายสำนักอ้างความเห็นของนักวิเคราะห์การเมือง แสดงความเห็นต่อศึกดีเบตระหว่างไมค์ เพนซ์กับทิม เคนออกมาว่า ฝ่ายนายเพนซ์ เป็นฝ่ายชนะ


หลังจบการดีเบต นายทรัมป์ ได้ทวีตข้อความทางทวิตเตอร์ ประกาศ ‘ไมค์ เพนซ์ ชนะครั้งใหญ่ พวกเราทั้งหมดภูมิใจในตัวไมค์!’ ขณะที่ ฮิลลารี คลินตัน ทวีตข้อความเช่นกันว่า ‘พวกเราไว้วางใจสตรีอเมริกัน ขอบคุณ@TimKaine’

 

Leave a comment