ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/239255
วันจันทร์ ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
นายวิรัตน์ ธรรมบำรุง ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 (สวพ.7) กรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2560 สวพ.7 ได้รับงบประมาณดำเนินการภายใต้ภารกิจของกรมวิชาการเกษตรใน 4 ผลผลิตหลัก คือ ผลผลิตที่ 1 งานวิจัยและพัฒนาด้านพืชในเขตภาคใต้ตอนบน โดยเน้นไปที่พืชเศรษฐกิจ 3 ชนิด ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ยางพาราและมังคุด นอกจากนี้จะมีงานวิจัยพืชเศรษฐกิจท้องถิ่นหรือพืชที่ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ จีไอ (GI) เช่น ส้มโอทับทิมสยาม จ.นครศรีธรรมราช กล้วยเล็บมือนาง จ.ชุมพร เงาะโรงเรียน จ.สุราษฎร์ธานี หรือสับปะรดภูเก็ต จ.ภูเก็ต เป็นต้น โดยงานวิจัยจะทำทั้งด้านการวิจัยพันธุ์เพื่อให้ได้พันธุ์ที่ดีมีคุณภาพ รวมทั้งต้องมีการเก็บรวบรวมพันธุ์ไว้ด้วยไม่เช่นนั้นพืชพันธุ์แท้อาจจะสูญพันธุ์ได้ในอนาคต นอกจากนั้นต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตพืชอย่างเหมาะสมให้เกษตรกร ไม่เช่นนั้นเกษตรกรอาจประสบปัญหาโรคระบาด หรือมีการใช้พันธุ์ที่ไม่ดีทำให้ได้ผลผลิตไม่มีคุณภาพ
ผลผลิตที่ 2 งานผลิตพันธุ์พืช ซึ่งภาคใต้ตอนบนพื้นที่ส่วนใหญ่กว่า 80% เป็นสวนปาล์มน้ำมัน ความต้องการปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีลูกผสมที่ได้รับการรับรองจากกรมวิชาการเกษตร คือ พันธุ์ลูกผสมสุราษฎร์ธานี 1-8 ซึ่งมีความต้องการสูงมากขึ้นทุกปี ฉะนั้น สวพ.7 ได้มอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรระนอง พังงา กระบี่ ชุมพร เพาะต้นกล้าพันธุ์ดีจำหน่ายให้กับเกษตรกร โดยตั้งเป้าปี 2560 จะผลิตได้ทั้งหมดประมาณ 100,000 ต้น
ผลผลิตที่ 3 การตรวจและรับรองแหล่งผลิตพืช โรงคัดบรรจุพืชในพื้นที่ และการกำกับดูแลร้านค้าปัจจัยการผลิต โดยตั้งเป้าจะขึ้นทะเบียนรับรองแหล่งผลิต GAP พืช ไม่ต่ำกว่า 9,000 แปลง รับรองโรงคัดบรรจุมาตรฐาน GMP 80 โรง และโรงคัดบรรจุพืชอินทรีย์ 2 โรง อีกทั้งจะเร่งรับรองแปลงเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะในมะพร้าว และมังคุด เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศอย่างครบวงจร และผลผลิตที่ 4 โครงการพิเศษ จำนวน 11 โครงการ ที่ต้องดูแลรับผิดชอบสนองงานตามพระราชดำริ ได้แก่ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช เป็นต้น
“ภารกิจที่สวพ.7 จะดำเนินการงานในปี 2560 จะสามารถตอบสนองนโยบายของกรมวิชาการเกษตร ในด้านการพัฒนาการผลิตพืชที่มีศักยภาพ เพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพ และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้เกษตรกร ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นและปลอดภัยต่อผู้บริโภค” นายวิรัตน์ กล่าวย้ำ