พระเกียรติคุณขจรไกล โลกแซ่ซ้องพระบารมี

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

http://www.thairath.co.th/content/756454

18 ต.ค. 2559 05:01

พระเกียรติคุณขจรไกล โลกแซ่ซ้องพระบารมี

18 ต.ค. 2559 05:01

ตลอดระยะเวลายาวนาน 7 ทศวรรษ นับตั้งแต่ทรงขึ้นครองแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงงาน อย่างหนักและตรากตรำพระวรกายมายาวนาน เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกรชาวไทย ควบคู่ไปกับการพัฒนาประเทศในทุกด้านให้มีความเจริญก้าวหน้า ยิ่งขึ้น จนได้รับการยกย่องให้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ครองราชย์ยาวนานที่สุด ในโลก และเป็นกษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลก นอกจากจะทรงอุทิศพระองค์เพื่อประชาชนแล้ว ยังทรงทำหน้าที่เสมือน “ทูต” ของประเทศไทย สร้างและ สานสัมพันธไมตรีอันแน่นแฟ้นกับนานาประเทศมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

พระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ไม่เพียงแต่เป็นที่ซาบซึ้งและเทิดทูนยกย่องของพสกนิกรชาวไทย แต่ยังได้รับการแซ่ซ้องจากชาวโลกมาอย่างลือลั่น ด้วยพระอัจฉริยภาพที่ทรงสร้างคุณูปการต่างๆไว้มากมาย ได้เป็นที่ประจักษ์แก่นานาประเทศ จนได้รับการทูลเกล้าฯถวายเหรียญสดุดีพระเกียรติคุณจากองค์กรระหว่างประเทศมากกว่า 32 รางวัล

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณารางวัลที่แสดงถึงพระปรีชาสามารถด้านทรัพย์สินทางปัญญา และรางวัลสดุดีพระเกียรติคุณที่เกี่ยวกับการพัฒนา มีรางวัลน่าสนใจมากมายนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการได้รับการสดุดีให้เป็น “ราชาผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญา” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงได้รับการยอมรับในพระปรีชาสามารถ ทั้งในแง่ของการเป็นนักประดิษฐ์และเป็นศิลปิน ทรงเป็นผู้ส่งเสริมการใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาอย่างแรงกล้า สิ่งประดิษฐ์ของพระองค์หลายประการ ได้ก่อให้เกิดผลประโยชน์มหาศาลต่อชุมชนทั้งหลายในประเทศไทย โดยทรงนำไปปฏิบัติใช้จริงในโครงการเพื่อการพัฒนาชนบทจำนวนมาก

พระเกียรติคุณที่ทรงมีบทบาทส่งเสริมทรัพย์สินทางปัญญา อุปถัมภ์นวัตกรรม ดำเนินกิจกรรมที่สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ และใช้ทรัพย์สินทางปัญญาคุ้มครองผลงานของพระองค์นั้น นับเป็นที่ประจักษ์จนได้รับการทูลเกล้าฯถวายเหรียญสดุดีจากองค์กรระดับโลกหลายองค์กร อาทิ องค์กรทรัพย์สินทางปัญญาโลก ทูลเกล้าฯถวายเหรียญรางวัล “ผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญา” สดุดีพระเกียรติคุณในฐานะที่ทรงอุทิศพระองค์ และใช้ทรัพย์สิน ทางปัญญาในการพัฒนาประเทศ อีกทั้งทรงส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยให้ดีขึ้นอย่างโดดเด่นเป็น ที่ประจักษ์ โดยในหลวงทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ทรงได้รับรางวัล ทางสหพันธ์สมาคมนักประดิษฐ์นานาชาติ ได้ทูลเกล้าฯถวายรางวัล “พระอัจฉริยภาพทางการประดิษฐ์” แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปี 2552 ในฐานะที่ทรงมีพระปรีชาสามารถหลายด้าน และทรงมีผลงานการประดิษฐ์คิดค้นกว่า 1,000 ชิ้น

นอกจากรางวัลด้านการประดิษฐ์และทรัพย์สินทางปัญญา องค์กรระดับสากลทั่วโลกยังทูลเกล้าฯถวายรางวัลสดุดีพระเกียรติคุณแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพล อดุลยเดช เพื่อเทิดพระเกียรติในฐานะ “กษัตริย์นักพัฒนา” โดยรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร่วมกับองค์กรอุตุนิยมวิทยาโลก นครเจนีวา ทูลเกล้าฯถวายรางวัลสดุดี พระเกียรติคุณด้านการศึกษาวิจัยการทำฝนเทียม เมื่อปี 2550 ขณะที่โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ทูลเกล้าฯถวายรางวัล “ความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์” สดุดีพระเกียรติคุณในฐานะที่ทรงอุทิศกำลังพระวรกาย และทรงพระวิริยอุตสาหะในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ เพื่อยังประโยชน์และความเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน ส่งผลให้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กลายเป็นแนวคิดสำคัญที่ได้รับการยกย่องไปทั่วโลก

ในสายตาของชาวต่างชาติ ล้วนเทิดทูนยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เป็นแบบอย่างของพระมหา กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์โลก และผู้นำประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น “สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน” ทรงถือพระจริยวัตรงดงามของในหลวงเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต และปกครองประชาชน โดย “กษัตริย์จิกมี” พร้อมสมเด็จพระราชินี และพระราชโอรส ได้เสด็จเยือนประเทศไทย เพื่อร่วมพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ นอกจากนี้ ยังทรงนำขบวนพระราชวงศ์และประชาชนภูฏานทั้งประเทศร่วมจุดเทียนถวายความอาลัย

ขณะเดียวกัน ผู้นำนานาประเทศ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์จากทั่วโลก ต่างส่งสาสน์แสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงมีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อปวงพสกนิกรไทย พร้อมยกย่องพระเกียรติคุณหากษัตริย์พระองค์ใดเสมอเหมือน ไม่ว่าจะเป็น “สมเด็จพระบรมราชินีเอลิซาเบธที่สองแห่งสหราชอาณาจักร” ทรงส่งสาสน์แสดงความเสียพระทัยเป็นการส่วนพระองค์ ถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ด้าน นายกรัฐมนตรีหญิงของอังกฤษ “เทเรซา เมย์” ส่งสาสน์แสดงความเสียใจต่อการสวรรคตว่า ขอแสดงความเสียใจสุดซึ้งต่อพระบรมวงศานุวงศ์ไทย และขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อพสกนิกรชาวไทย ทรงอุทิศพระองค์เพื่อปกครองประเทศไทยให้ประชาชนได้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข

ขณะที่ “สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไน” ทรงมีพระราชสาสน์ถึงสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร แสดงความเสียพระทัยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศว่า ทรงรู้สึกเสียพระทัยเป็นอย่างมาก เมื่อได้ทราบข่าวการสวรรคต พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งอุทิศตนเพื่อสวัสดิภาพของประชาชนและการพัฒนาประเทศ วิสัยทัศน์ของพระองค์ในเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงยังเป็นแรงบันดาลใจไปทั่วโลก สำหรับการ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยมีแนวคิดเรื่องความยั่งยืนและเป็นศูนย์กลางใจของ ปวงชนชาวไทย ด้าน “สมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์” ทรงส่งสาสน์แสดงความเสียพระทัยว่า รู้สึกเศร้าพระทัยต่อการสวรรคต ข้าพเจ้าและประชาชนชาวนอร์เวย์ขอแสดงความเสียใจต่อพระบรม วงศานุวงศ์ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อประชาชนชาวไทย นอก จากนี้ “สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน” ทรงมีรับสั่งว่า พระราชินีและข้าพเจ้ารับทราบถึงความเศร้าโศกเสียใจและความทุกข์ใจของการเสด็จสวรรคตครั้งนี้ เราขอแสดงความเสียใจอย่างจริงใจต่อพระองค์ท่าน พระบรมวงศานุวงศ์ และประชาชนแห่งราชอาณาจักรไทย ส่วน “สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก” ได้มีรับสั่งว่า ทรงรู้สึกเศร้าใจที่รู้ถึงการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ เพราะความผูกพันระหว่างสองราชวงศ์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด กันมาก สำหรับ “สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลมอเล็กซานเดอร์ แห่งเนเธอร์แลนด์” ทรงร่วมไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ พร้อมทรงยกย่องพระองค์ที่ทรงมองเห็นถึงความสำคัญของความสามัคคี ปรองดอง และสันติภาพในประเทศไทย.

Leave a comment