แนวปฏิบัติของการเลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/236924

วันอาทิตย์ ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

สวัสดีครับ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเราได้คุยกันถึงเรื่องสุนัขจรจัดที่เป็นสาเหตุหลักของการกระจายโรคพิษสุนัขบ้ากันมาแล้ว วันนี้ผมมีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับ “แนวปฏิบัติของการเลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบ” โดยรองศาสตราจารย์ สัตวแพทย์หญิง ดร.เกวลี ฉัตรดรงค์ รองคณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

“Owning a dog is not just a privilege-it’s a responsibility” หรือ “การได้เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่สิทธิพิเศษ แต่เป็น “ความรับผิดชอบ” ที่พึงมีต่อชีวิตสัตว์และสังคม”

สัตว์เลี้ยงยอดฮิตในปัจจุบัน ไม่พ้นสุนัขและแมว เหตุผลของการครอบครองสัตว์เลี้ยงของแต่ละคนแตกต่างกัน บ้างก็หลงใหลในความน่ารักจนอดใจไม่ไหว บ้างก็อยากได้เป็นเพื่อน เป็นลูก เป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ บ้างก็อยากได้เหมือนคนอื่น เป็นแฟชั่น แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม การมีโอกาสได้ครอบครองเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงนั้น ไม่ใช่สิทธิพิเศษ แต่เป็น “ความรับผิดชอบ” ที่ผู้ครอบครองพึงมีต่อสัตว์ จนชั่วชีวิตของสัตว์เลี้ยงตัวนั้น เราอาจมีญาติ มีเพื่อนฝูงมากมาย แต่สัตว์เลี้ยงเค้ามีเจ้าของเพียงคนเดียวที่เป็นเจ้าชีวิต แนวปฏิบัติตนให้เป็น “เจ้าของสัตว์ที่มีความรับผิดชอบ” นั้น ประกอบด้วยหลักสากล 16 ข้อ ดังนี้

1.คิดให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจรับสัตว์เลี้ยง

2.เลือกชนิดและพันธุ์สัตว์เลี้ยงที่เหมาะสมกับที่อยู่อาศัยและไลฟ์สไตล์

3.เลี้ยงสัตว์ตามจำนวนที่สามารถให้การดูแลด้านอาหาร น้ำ ที่อยู่อาศัย สุขภาพ และให้ความเป็นเพื่อนได้อย่างไม่บกพร่อง ไม่เลี้ยงจำนวนมากเกินไปจนเป็นภาระ

4.ยอมรับในความสัมพันธ์การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงจนตลอดชีวิตของสัตว์

5.จัดหาการออกกำลังกายที่เหมาะสม

6.ฝึกหัดนิสัยที่ดีให้สัตว์เลี้ยง

7.ตระหนักอยู่เสมอว่าการเลี้ยงสัตว์ต้องใช้เวลาและเงิน

8.สัตว์เลี้ยงต้องได้รับการป้องกันโรคอย่างเหมาะสม ได้แก่ วัคซีน การป้องกันปรสิต และการให้การรักษาเมื่อเจ็บป่วย

9.รักษาความสะอาดของสัตว์เลี้ยงอยู่เสมอ

10.ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงสัตว์ เช่น การจดทะเบียนตัวสัตว์ การสวมสายจูงเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ และการควบคุมเสียงและกลิ่นไม่ให้รบกวนผู้อื่น

11.ไม่ปล่อยให้สัตว์เลี้ยงหากินเองอยู่นอกบ้าน

12.สัตว์เลี้ยงได้รับการระบุตัวตน เช่น การใช้ป้ายชื่อ ไมโครชิพ หรือการสัก

13.จำกัดการขยายพันธุ์สัตว์ โดยคุมกำเนิดหรือทำหมันตามความเหมาะสม

14.เตรียมพร้อมรับเหตุฉุกเฉินอยู่เสมอ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ต้องมีการวางแผนจัดเตรียมอุปกรณ์ในการเคลื่อนย้ายสัตว์ออกจากสถานที่เกิดเหตุ

15.หากไม่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงต่อไปได้ ต้องมีการวางแผนจัดเตรียมอย่างเหมาะสม

16.เฝ้าระวังสุขภาพสัตว์เลี้ยงอยู่เสมอ หากมีสิ่งผิดปกติควรปรึกษาสัตวแพทย์

จากแนวปฏิบัติทั้งหมดนี้ สรุปได้ว่า การมีสัตว์เลี้ยงซักตัว ให้พิจารณา 3 ด้าน คือ

1.หลักสวัสดิภาพสัตว์ หรืออิสรภาพ 5 ประการ (Five Freedoms)

1.1.อิสระจากความหิว กระหาย และการได้รับอาหารที่ไม่ถูกต้อง(Freedom from hunger and thirst)

1.2.อิสระจากความไม่สะดวกสบาย อันเนื่องมาจากสิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสม (Freedom from discomfort)

1.3.อิสระจากความเจ็บปวด การบาดเจ็บ หรือเป็นโรค (Freedom from pain, injury and disease)

1.4.อิสระจากความกลัวและความทุกข์ทรมาน (Freedom from fear and distress)

1.5.อิสระในการแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติของสัตว์ (Freedom to express normal behavior)

2.ความรับผิดชอบต่อสังคมโดยรอบ ไม่ทำให้ผู้อื่นรำคาญหรือเดือดร้อน

3.ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เก็บอุจจาระและสิ่งขับถ่ายของสัตว์ในที่สาธารณะ

หากปฏิบัติได้ทั้งหมดนี้แล้ว จึงค่อยตัดสินใจนำสัตว์มาเลี้ยงกันนะครับ

 

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.ทิลดิสร์ รุ่งเรืองกิจไกร
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร
คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Leave a comment