ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/242824

วันพฤหัสบดี ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

ภญ.ทิพวรรณ จิตพิมลมาศ มอบเงินให้กับมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย และมูลนิธิโรคเลือดออกง่ายฮีโมฟีเลียแห่งประเทศไทย

บริษัท แบ็กซ์เตอร์เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย)จำกัด ผู้ประกอบการด้านเวชภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ชั้นนำ จัดกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพ-มินิมาราธอนการกุศล “แบ็กซ์เตอร์รัน ฟอร์ ฟันด์ 2016” (TheBaxter Run for Fund) ปี 4 เพื่อนำเงินรายได้โดยไม่หักค่าใช้จ่าย มอบให้มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย และมูลนิธิโรคเลือดออกง่ายฮีโมฟีเลียแห่งประเทศไทย โดยมี ภญ.ทิพวรรณจิตพิมลมาศ ผู้จัดการประจำประเทศไทย นำทีมพนักงานแบ็กซ์เตอร์ฯ ทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกับชมรมนักวิ่งต่างๆ และประชาชนผู้รักสุขภาพทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,500 คน ณ สวนหลวง ร.9 ไปเมื่อเร็วๆ นี้

บรรยากาศการวิ่งเพื่อสุขภาพ-มินิมาราธอนการกุศล “แบ็กซ์เตอร์ รัน ฟอร์ ฟันด์ 2016”

ภญ.ทิพวรรณ จิตพิมลมาศผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทแบ็กซ์เตอร์เฮลธ์แคร์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า กิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพการกุศล “แบ็กซ์เตอร์ รัน ฟอร์ ฟันด์ 2016” ปีที่ 4จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “วิ่งสนุก สุขภาพดีชีวีมีสุข” เพื่อช่วยส่งเสริมและกระตุ้นให้ประชาชน หันมาให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายกันมากขึ้น ช่วยเสริมสร้างสุขภาพดี มีภูมิคุ้มกันโรค ในระยะทาง 5 กิโลเมตร และ 10.5 กิโลเมตร มีนักวิ่งจากชมรมต่างๆ และประชาชนผู้รักสุขภาพทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรม 1,500 คน โดยเงินรายได้จากค่าสมัครทั้งหมด 600,000 บาท บริษัทได้มอบให้มูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย และมูลนิธิโรคเลือดออกง่ายฮีโมฟีเลียแห่งประเทศไทยโดยไม่หักค่าใช้จ่าย เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยและกิจกรรมต่างๆ ของมูลนิธิต่อไป เนื่องจากโรคไตเรื้อรัง และโรคฮีโมฟีเลียเป็นโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หายขาดจำเป็นต้องดูแลรักษาตลอดชีวิตการให้ความช่วยเหลือและกำลังใจแก่ผู้ป่วยและครอบครัวจึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญตลอดมา

พญ.สุขฤทัย เลขยานนท์ อายุรแพทย์โรคไต หน่วยไตเทียมมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย ณ ตึกกัลยาณิวัฒนา โรงพยาบาลสงฆ์ เผยว่า “แบ็กซ์เตอร์รัน ฟอร์ ฟันด์” เป็นกิจกรรมที่ช่วยรณรงค์ให้คนหันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น อีกทั้งยังได้ร่วมทำบุญด้วย และเป็นที่น่ายินดีที่มีผู้รักสุขภาพมาร่วมวิ่งกับโครงการ BaxterRun for Fund เพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยทางมูลนิธิโรคไตฯ ได้รับเงินสนับสนุนจากโครงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ต้องขอขอบคุณโครงการ และนักวิ่งเพื่อสุขภาพทุกคนที่มีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกๆ ปี

บรรยากาศการวิ่งเพื่อสุขภาพ-มินิมาราธอนการกุศล “แบ็กซ์เตอร์ รัน ฟอร์ ฟันด์ 2016”

“สำหรับผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง หากแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคไต ควรเข้ารับการรักษาบำบัดรักษา อย่าท้อถอยหรือเสียกำลังใจเพราะผู้ป่วยโรคไตยังถือว่าโชคดีกว่าผู้ป่วยโรคเรื้อรังอื่นๆ มีแนวทางการรักษาที่ชัดเจน สามารถบำบัดทดแทนไตได้หลายวิธีหากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตและมีไลฟ์สไตล์ได้ใกล้เคียงกับคนปกติ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการทำงาน การประกอบอาชีพ ก็ยังสามารถทำได้หรือเรื่องอาหารการกิน ก็ไม่ได้ควบคุมจากความเป็นจริงมากจนเกินไปผู้ป่วยสามารถอยู่อย่างมีความสุขและมีชีวิตยืนยาวได้ ส่วนการออกกำลังกายในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ได้รับการบำบัดทดแทนไตด้วยการฟอกเลือด หรือล้างไตทางช่องท้อง สามารถออกกำลังกายได้ เช่น เดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ แอโรบิก ปั่นจักรยาน แบดมินตัน แต่ทั้งนี้ ผู้ป่วยต้องประเมินกำลังของตนเองด้วยว่าทำได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยโรคไตที่ยังไม่ได้รับการบำบัดทดแทนไต ควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมิน”

ด้าน ศรีสุภา แก้วประพาฬ กรรมการมูลนิธิและชมรมโรคเลือดออกง่ายฮีโมฟีเลียแห่งประเทศไทย เผยว่า “มูลนิธิโรคเลือดออกง่ายฮีโมฟีเลียฯ ขอบคุณทางโครงการที่ได้สนับสนุนเงินให้กับมูลนิธิ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยมูลนิธิโรคเลือดออกง่ายฮีโมฟีเลียฯได้มีการจัดกิจกรรมพบปะเครือข่ายผู้ป่วยฮีโมฟีเลียในภูมิภาคต่างๆ สร้างความสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างครอบครัวผู้ป่วยและญาติ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถดูแลตนเองได้ โดยลดการดูแลจากบุคลากรทางการแพทย์ลง รวมถึงการช่วยประชาสัมพันธ์ส่งเสริมอาชีพสำหรับผู้ป่วย”

ทั้งนี้ โรคฮีโมฟีเลีย (Hemophilia)หรือโรคเลือดออกง่ายหยุดยากเป็นโรคเรื้อรัง ที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมผู้ป่วยฮีโมฟีเลียสามารถออกกำลังกายได้แต่ควรทำอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดแผล หรือการกระแทกแรงๆ เช่น การเดิน-วิ่ง (อย่างระมัดระวัง) ยืดผ้า หรือการยกเวทเบาๆ ว่ายน้ำ เป็นการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ช่วยลดการทำงานของกระดูก และลดการหลั่งเลือดออกมาด้วย จะช่วยให้กล้ามเนื้อมีความทนทานสูง และแข็งแรงขึ้นแต่การออกกำลังกายต่างๆ ต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องด้วย ค่อยเป็นค่อยไป อย่าหักโหม เพราะอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้