ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/769856
31 ต.ค. 2559 19:53

สถานทูตไทยในแคนเบอร์รา จัดพิธีแสดงความอาลัย รวมหัวใจคนไทยไกลบ้าน
31 ต.ค. 2559 19:53
สถานทูตไทยในกรุงแคนเบอร์รา พร้อมชุมชนไทย จัดพิธีแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมหัวใจชาวไทยครั้งยิ่งใหญ่ ทั่วกรุงแคนเบอร์รา
เมื่อ 31 ตุลาคม นายณัฐพันธ์ ตรีเมฆ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ประจำประเทศออสเตรเลีย รายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย, ทีมประเทศไทย, และชุมชนไทยในกรุงแคนเบอร์รา รวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อน้อมถวายสักการะและแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงแคนเบอร์รา เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2559 โดยทางสถานทูตได้เปิดให้ชมนิทรรศการ พร้อมกับได้จัดกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน ทั้งการฉายวีดิทัศน์พระราชประวัติ, พระราชกรณียกิจ ขณะที่นักศึกษาไทยในกรุงแคนเบอร์ราได้ร่วมกันบรรเลงดนตรีไทย ร่วมขับร้องบทเพลงพระราชนิพนธ์ จากนั้นเวลา 15.05 น. นายจิระชัย ปั้นกระษิณ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงแคนเบอร์รา กล่าวแสดงความอาลัยโดยมีใจความดังนี้
“ในนามของข้าราชการและเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ และหน่วยงานทีมประเทศไทย ผมรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นความสามัคคีและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชุมชนไทย รวมทั้งนักเรียน นักศึกษา ในกรุงแคนเบอร์รา และเมืองใกล้เคียง ที่ได้ตั้งใจมาร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อันเป็นที่รักยิ่งของพวกเรา และร่วมกันแสดงความอาลัยแด่พระองค์ท่าน ซึ่งนับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ชุมชนไทยในออสเตรเลียได้แสดงออกถึงความอาลัยที่มีต่อพระองค์ท่าน
ในช่วงสิบกว่าวันนับตั้งแต่วันที่ “พ่อหลวง” เสด็จสวรรคต ผมได้เห็นน้ำใจและความสามัคคีของคนไทยจากทั่วทุกสารทิศในออสเตรเลีย ที่ได้พร้อมเพรียงกันแสดงออกถึงความจงรักและภักดีต่อพระองค์ท่าน บ้างก็จัดกิจกรรมและพิธีทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล บ้างก็รวมตัวกันเพื่อแสดงความอาลัยในรูปแบบต่างๆ ซึ่งผมเชื่อว่าหลายคนก็คงอยากที่จะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อไปกราบสักการะพระบรมศพที่พระบรมมหาราชวังสักครั้ง แต่ติดด้วยภาระ หน้าที่และข้อจำกัดต่างๆ ทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับไปได้ ในวันนี้ พวกเราได้ตั้งใจและพร้อมใจกันมาที่ศาลาไทยแห่งนี้ ในเขตอาณาของสถานเอกอัครราชทูต ผมก็ขอให้ท่านนึกเสมือนว่าท่านได้ยืนอยู่บนแผ่นดินไทยแล้ว ก็ขอให้ตั้งจิตที่จะแสดงความอาลัยแด่พระองค์ท่านจากที่แห่งนี้ร่วมกัน
ตลอดระยะเวลากว่า 70 ปีที่ทรงครองสิริราชสมบัติ ผมเชื่อว่าทุกคนตระหนักดีว่าพระองค์ท่านทรงรักษาคำมั่นแห่งพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ได้ดีเพียงใด พวกเราได้เห็นพระองค์ท่านทรงงานหนัก ตรากตรำพระวรกายไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย พวกเราได้เห็นพระองค์ท่านเสด็จฯ ไปในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร ซึ่งบางท่านอาจเคยมีโอกาสได้รับเสด็จด้วยในโอกาสใดโอกาสหนึ่ง พวกเราได้เห็นพระองค์ท่านทรงริเริ่มดำเนินโครงการและกิจกรรมเพื่อการพัฒนาในทุกด้าน จนถึงวันนี้มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ เกือบทั่วทุกจังหวัดในประเทศไทย
พวกเราได้เห็นพระองค์ท่านพลิกผืนดินแห้งแล้งและภูเขาหัวโล้น ให้เป็นป่าเป็นต้นน้ำ และเป็นพื้นที่ทำกินของเกษตรกร พวกเราได้รับคำสอนและได้เห็นแบบอย่างจากพระราชจริยวัตรของพระองค์ท่าน ในการดำรงชีวิตและกินอยู่อย่างสมถะและพอเพียง พวกเราได้เห็นพระองค์ท่านเสด็จฯ เยือนต่างประเทศ ทั้งเพื่อเยี่ยมเยียนคนไทย และประกาศเกียรติภูมิและวัฒนธรรมของประเทศไทยให้ต่างชาติได้รับรู้ ซึ่งทั้งหมดที่ท่านทำนั้นมีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือ บำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้แก่ประชาชนของพระองค์ และสร้างชื่อเสียงเกียรติภูมิให้แก่ประเทศไทย
ผมเข้าใจดีว่าทุกท่านยังอยู่ในภาวะโศกเศร้าเสียใจ แต่ก็อยากขอให้ทุกท่านทำจิตใจให้เข้มแข็ง และพึงระลึกถึงแบบอย่างในการใช้ชีวิตและการทรงงาน รวมไปถึงน้อมนำพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัสของ “พ่อหลวง” ที่ได้เคยพระราชทานไว้ในโอกาสต่างๆ โดยผมขออนุญาตเชิญพระราชดำรัสตอนหนึ่งที่ได้พระราชทานไว้แก่ชุมชนไทยในต่างประเทศ เมื่อปี 2526 ความว่า “ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้ ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้” และขอให้ทุกท่านได้น้อมนำโอวาทและคำสอนต่างๆ ของพระองค์ท่าน ซึ่งเน้นย้ำในเรื่องของการทำความดี การอยู่อย่างพอเพียง การรู้รักสามัคคี ความปรองดอง และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และการรักษาความเป็นไทยให้คงอยู่ และนำมาปรับใช้ในการดำรงชีวิตและการทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของ “พ่อหลวง” และประเทศไทยของเรา ผมขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งที่ได้พร้อมใจกันมาในวันนี้”
จากนั้นเวลา 15.10 น. ได้มีการฉายวีดิทัศน์ภาพกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน และเวลาประมาณ 15.15 น. ชุมชนไทยในรัฐต่างๆ ของออสเตรเลีย, ชุมชนไทยในกรุงแคนเบอร์รา และผู้แทนนักเรียนทุนรัฐบาลในออสเตรเลีย น.ส.ปุณณฑรีย์ เจียวิริยบุญญา และผู้เข้าร่วมโครงการเยาวชนจิตอาสาเพื่อเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริได้กล่าวแสดงความอาลัย จากนั้นชุมชนไทยยืนสงบนิ่งไว้อาลัย 3 นาที, ขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และร่วมนำดอกไม้มาถวายต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการ.

