ทอ.สหรัฐฯ ให้โบอิ้งและ BAE ร่วมพัฒนาระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ สำหรับเครื่องบินขับไล่โจมตี เอฟ-15ซี และ เอฟ-15อี รับมือภัยคุกคามทั้งระบบต่อต้านอากาศยานสมัยใหม่ และเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4++ ของจีนและรัสเซีย…

โบอิ้ง ได้รับสัญญาจ้างจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ (U.S.Air Force) มูลค่า 478 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการเพิ่มพัฒนาชุดสงครามอิเล็กทรอนิกส์ยุคอนาคตเต็มรูปแบบ เพื่อใช้ปฏิบัติการกับเครื่องบินขับไล่ เอฟ-15 ซี อีเกิล (F-15C Eagle) ที่เรียกว่า Eagle Passive/Active Warning and Survivability System หรือ Epawss

ก่อนหน้านี้ในเดือน ต.ค.2015 โบอิ้งเป็นคู่สัญญาหลักในการดำเนินการปรับปรุงเอฟ-15 ให้มีความทันสมัย โดยเลือกติดตั้งระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์แบบดิจิตอลของ บีเออี ซิสเต็มส์ เพื่อปรับปรุงทดแทนระบบเก่าของ เอฟ-15 ที่เป็นระบบเก่าใช้มาตั้งแต่ปี 1980 ทั้งนี้โครงการ Epawss นี้ตั้งงบไว้เกือบ 1.2 พันล้านเหรียญ ผูกพันปีงบประมาณ 2016-2021 เพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนาระบบ รวมทั้งการบริหารจัดการอื่นๆ ตั้งแต่การวางแผน การออกแบบ และพัฒนา การผสานระบบเข้ากับอากาศยาน การทดสอบ และลดความเสี่ยงในโครงการ Epawss ของเอฟ-15

ทอ.สหรัฐฯ จะติดตั้งระบบดังกล่าวให้กับเครื่องบินเอฟ-15 ที่มีใช้งานรวมกันกว่า 400 ลำ ทั้งที่เป็น F-15C Eagle รุ่นขับไล่ครองอากาศ และ F-15E Strike Eagle รุ่นขับไล่โจมตีทิ้งระเบิด โดยโครงการ Epawss จะเนรมิตให้เครื่องบินขับไล่ที่ผลิตขึ้นมาในยุคทศวรรษที่ 70 สามารถบินปฏิบัติงานได้ยาวนานถึงปี 2045 และรับมือกับภัยคุกคามจากระบบต่อต้านอากาศยาน และเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4 ขึ้นไป (Gen.4 ++) จากฝั่งรัสเซีย และจีนได้

สำหรับระบบ Epawss จะเป็นระบบที่นำเอาความสามารถในการต่อต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำให้ เอฟ-15 มีขีดความสามารถในการ ปฏิเสธ ลดขีดความสามารถ หลอกลวง รบกวน และหลบหลีก จากการตรวจจับด้วยเรดาร์ รังสีอินฟราเรด และระบบอิเล็กโทรออปติคอล ทุกรูปแบบที่เป็นภัยคุกคาม โดย Epawss จะไปทดแทนชุดระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์เก่าแบบ 1 ต่อ 1 อันที่ประกอบด้วย เรดาร์แจ้งเตือนภัยคุกคามแบบดิจิตอลใหม่ (RWR) ระบบรบกวนเรดาร์ (Jammer) เพิ่มระบบเป้าลวงขีปนาวุธนำวิถีด้วยเรดาร์ หรือ แชฟท์ และเป้าลวงขีปนาวุธนำวิถีด้วยความร้อน หรือแฟลร์แบบใหม่ รวมทั้ง เป้าลวงขีปนาวุธนำวิถีแบบลากท้ายแบบใหม่.

ที่มา : aviationweek