ประเทศเดนมาร์ก ตั้ง Agro Food Park ศูนย์ค้นคว้าและวิจัยนวัตกรรมอาหารเลี้ยงประชากรโลก โดยมุ่งกระชับเสริมสร้างความร่วมมือทางด้านการเกษตรที่แน่นแฟ้นระหว่างรัฐและเอกชน จากทุกองค์กรในทุกๆ ประเทศ…

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 59 บุญธง ก่อมงคลกูล ผู้สื่อข่าวไทยรัฐประจำเบลเยียม รายงาน จากตัวเลขประมาณการว่าในปี 2050 ประชากรโลกจะมีจำนวนถึง 9 พันล้านคน ทำให้ต้องมีอาหารที่เพียงพอสำหรับการเลี้ยงดูประชากรโลก ซึ่งมีจำนวนสองในสามอาศัยอยู่ในเขตเมือง จากการประเมินอนาคตดังกล่าว ทำให้บรรดานักวิจัยต้องพยายามค้นคว้านวัตกรรมด้านการผลิตอาหารและสรรหาระบบการเกษตรแบบยั่งยืนที่สามารถผสมผสานกับชีวิตคนเมือง

ประเทศเดนมาร์ก ได้จัดตั้งศูนย์ค้นคว้าและวิจัย Agro Food Park ขึ้นเมื่อปี 2009 ที่ชานเมืองอาร์ฮุส ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองจากโคเปนเฮเกน โดยมีพื้นที่ใช้สอย 40,000 ตารางกิโลเมตร มีองค์กรวิจัยตั้งอยู่ประมาณ 80 องค์กร และมีคนทำงานกว่า 1,000 คน องค์กรหรือบริษัทที่ตั้งอยู่มีความหลากหลายมาก มีทั้งจากภาครัฐและเอกชน ขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เป็นของเดนมาร์กหรือนานาชาติ ทุกองค์กรต่างพุ่งเป้าไปในการค้นคว้าวิจัยด้านอุตสาหกรรมเกษตร มีขอบเขตกว้างขวางจากแบคทีเรียถึงรสชาติอาหาร

สำหรับศูนย์ค้นคว้าและวิจัยดังกล่าวได้ตั้งเป้าว่า ภายใน 30 ปีจะมีบริษัทมาตั้งเพิ่มขึ้นกว่า 100 บริษัท ซึ่งจะทำให้ศูนย์นี้มีสภาพไม่ต่างจาก “Silicon Valley” ทางการเกษตร ทั้งนี้ เดนมาร์กเป็นประเทศที่มีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเป็นที่ตั้งศูนย์กลางค้นคว้าวิจัยด้านการเกษตร เนื่องจากเดนมาร์กสามารถผลิตอาหารได้ในปริมาณที่มากกว่าปริมาณที่ประชากรของตนบริโภคถึงหกเท่าตัว ยิ่งกว่านั้นยังเป็นการกระบวนการผลิตที่เคารพและรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ทั้งนี้ บริษัท Aarla Foods ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนมที่ใหญ่ที่สุดในสแกนดิเนเวีย จะมาตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาของบริษัทในช่วงปลายปีนี้ที่ศูนย์ดังกล่าว นอกจากนั้น คณะวิทยาศาสตร์ด้านอาหารของมหาวิทยาลัยอาร์ฮุสก็จะมาเปิดดำเนินการในช่วงปี 2018 อีกด้วย

โดยเป้าหมายสำคัญของศูนย์การค้นคว้าและวิจัยคือ กระชับเสริมสร้างความร่วมมือทางด้านการเกษตรที่แน่นแฟ้น ภายในเขตพื้นที่ที่มีความคล้ายคลึงกับเขตชนบท และเขตเมืองผสมผสานกัน ทำให้มีรูปแบบวิวัฒนาการที่มีรูปแบบเฉพาะตัว มีการจัดพื้นที่โซนนิ่งที่อำนวยความสะดวกในการประสานความร่วมมือระหว่างกัน

นายซอเรน มาดเซน ผู้รับผิดชอบศูนย์ Agro Food Park กล่าวว่า “เรามีการจัดวางพื้นที่เขตเมืองที่สำคัญ อาทิ สนามหญ้ากลาง ที่จะเป็นบริเวณสำหรับเป็นจุดรวมของการพบปะ” ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างให้ผู้ที่อาศัยในเมืองอาร์ฮุสสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ด้วย “เราต้องการให้พวกเขามีส่วนร่วมกับอนาคตของศูนย์ฯ ด้วย” เขาระบุ

ในปีหน้าจะมีการเปิดเส้นทางรถรางเชื่อมต่อระหว่างศูนย์กลางของเมืองอาร์ฮุส กับศูนย์ Agri Food Park ใช้เวลาเดินทางเพียง 11 นาที เพื่อกระตุ้นการไปมาของผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมือง นอกจากนั้น ยังมีเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางระดับนานาชาติ ผู้อำนวยการศูนย์ระบุว่า ได้รับการติดต่อจากคณะผู้แทนประเทศเบลโลรัสเซีย ไทย และแคนาดา.