‘ทรงติดตามปฏิบัติการตลอดเวลา…’ บางส่วนจากผู้ถวายงาน‘ฝนหลวง’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/243048

วันพฤหัสบดี ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 17.49 น.

3 พ.ย.59 นายประเสริฐ โกศัลวิตร อดีตอธิบดีกรมหม่อนไหม และกรมการข้าว กล่าวกับ “สกู๊ปแนวหน้า” ว่า ถือเป็นโชคดีอย่างหนึ่งในชีวิตของตน ที่ครั้งหนึ่งเคยได้ถวายงานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในส่วนของโครงการพระราชดำริ “ฝนหลวง” ซึ่งทำให้ตนเห็นว่าพระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกร โดยเฉพาะเกษตรกรอย่างยิ่ง

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ในแต่ละปฏิบัติการฝนหลวงนั้น พระองค์ท่านจะทรงศึกษาสภาพอากาศจากแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศด้วยพระองค์เอง ครั้งหนึ่งเคยรับทราบจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า ในช่วงที่เกิดวิกฤติภัยแล้ง พระองค์ท่านจะทรงประทับนั่งกับพื้นเพื่อทรงงาน โดยมีแผนที่สภาพทางอากาศวางกับพื้น ในช่วงที่เกิดภัยแล้งพระองค์ท่านจะทรงศึกษาสภาพภูมิอากาศที่จะมีการเปลี่ยนแปลงว่าในช่วงที่แล้งๆนั้น จะสามารถรีบทำฝนหลวงได้ภายในกี่วัน จากนั้นพระองค์ท่านจะรับสั่งผ่านลงมาให้พวกเราไปตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษฝนหลวงช่วยเหลือเกษตรกร

‘ครั้งหนึ่งผมเป็นหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษฝนหลวงไปตั้งหน่วยที่ จ.แพร่ เพื่อเติมน้ำลงเขื่อนสิริกิติ์ มีเหตุการณ์หนึ่งที่ผมจำได้แม่น ในการพิมพ์ถวายรายงานประจำวันนั้น ปรากฏว่าผมพิมพ์ผิด ระหว่างที่ส่งเข้าไปนั้นก็มีเรื่องที่ตอบกลับมาเดี๋ยวนั้นทันทีจาก VR009-กส.9 ซึ่งเป็นสัญญาณเรียกขานทางวิทยุประจำพระองค์ ว่าที่ผมพิมพ์ผิดไปนั้นคืออะไร แสดงให้เห็นว่าพระองค์ท่านทรงติดตามปฏิบัติการฝนหลวงตลอดเวลา เหตุผลหนึ่งที่ทรงห่วงใยในเรื่องของน้ำ เพราะเวลาเข้าเฝ้าฯทุกครั้งจะทรงรับฝั่งว่าน้ำมีความสำคัญมากต่อภาคการเกษตร’ นายประเสริฐ กล่าว 

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า อีกประสบการณ์ คือ เดือน มี.ค.2542 ช่วงนั้นเกิดวิกฤติภัยแล้ง พระองค์ทรงมีรับสั่งให้ตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษฝนหลวงที่ จ.นครสวรรค์ ครั้งนั้นพระองค์ท่านจะรับสั่งเป็นแผนที่สภาพอากาศมาว่าวันนี้ให้ขึ้นทำงานบริเวณนี้ ใช้สารเคมีสูตรนี้ มีบางวันทรงให้ทดสอบบินตอนกลางคืนประมาณตี 2 -3 ให้ขึ้นบินโปรยสารเคมีเป็นสูตรเย็นเหนือบริเวณบึง หรือที่มีน้ำอยู่ เพื่อดึงความชื้นรอถึงเช้า เพื่อที่จะสามารถมีความชื้นทำฝนหลวงได้

นอกจากนี้ช่วงปี 2541-2542 ที่มีปัญหาภัยแล้ง ประกอบกับประเทศกำลังมีปัญหาด้านเศรษฐกิจ เกิดภาวะฟองสบู่แตก มีคนตกงานจำนวนมาก ในระหว่างที่ตนเปิดปฏิบัติการฝนหลวงนั้น พบว่ามีการปลูกข้าวในลุ่มน้ำเจ้าพระยามากจริงๆ มีครั้งหนึ่งตนขับรถผ่านเข้าไปดูในพื้นที่ ไปพบเกษตรกรก็ได้คุยกับเขา สิ่งหนึ่งที่ได้ยินแล้วแทบจะน้ำตาไหล คือ บางคนตกงานมา แล้วกลับบ้านมาปลูกข้าวก็ยังพอมีกิน เพราะเขาเชื่อมั่นในพระองค์ท่านว่าจะสามารถช่วยเขาได้

นั่นคือศรัทธาและความเชื่อมั่นของเกษตรกร และพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อพระองค์ท่าน ในฐานะที่เคยถวายงานผมเห็นตลอดว่าพระองค์ท่านไม่เคยปล่อยปละละเลย หรือละเว้น ในการที่จะดูแลว่าจะทำอย่างไรให้น้ำมีพอใช้สำหรับการเกษตรและการอุปโภคบริโภค ไม่ใช่เกิดเหตุแล้วเพิ่งจะมารับสั่ง แต่ทุกอย่างพระองค์ท่านได้เตรียมอะไรไว้หมดแล้ว เตรียมไว้ล่วงหน้า และด้วยน้ำพระทัยที่แปรเปลี่ยนเป็นสายฝนที่โปรยปรายลงมา หลังทำฝนหลวงก็ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่การเกษตรหลายพื้นที่

‘พวกผมในฐานะที่ทำงานฝนหลวง เชื่อมั่นในพระบารมี ส่วนตัวผมนั้นทุกครั้งที่ขึ้นบินทำงาน ผมจะยกมือไหว้ ขอพระบารมีของพระองค์ท่านคุ้มครองพวกเรา ตลอดระยะเวลาเป็น 10 ปี ที่ทำงานกันมาทุกคนก็ปลอดภัยดี ผมเชื่อมั่นต่อพระบารมี พระองค์เคยทรงมีรับสั่งว่าการที่เราตั้งใจดี ทำดี ผลจะออกมาดี ทำให้เกษตรกรในพื้นที่แห้งแล้งได้รับประโยชน์ ตามที่พระองค์ท่านทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์เป็นอย่างมาก ตรงนี้คือสิ่งที่ผมและผู้ปฏิบัติงานฝนหลวงยึดมั่น’ นายประเสริฐ กล่าวทั้งน้ำตา

Leave a comment