‘บิ๊กฉัตร’ปลูกข้าวแปลงใหญ่นำร่องเกษตรสมัยใหม่

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/244191

วันศุกร์ ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 12.53 น.

“รมว.เกษตรฯลงพื้นที่ปลูกข้าวแปลงใหญ่ นำร่องเกษตรสมัยใหม่ ใช้เทคโนโลยีระบบเลเซอร์ ปรับระดับดินในแปลงนา ลดใช้น้ำ พลังงานอื่นๆ ยังลดปัญหาวัชพืช ใช้เครื่องโรยเมล็ดพันธุ์ข้าวงอก ทำต้นทุนปลูกข้าวลดลงร้อยละ 12.5 เหลือ3,130 บาทจาก 4,500 บาทต่อไร่ เพิ่มผลผลิตข้าวจาก800 กก. เพิ่มขึ้น900กก.ต่อไร่ เตรียมเสนอครม.ขยายสินเชื่อเเปลงใหญ่วงเงิน 10 ล้าน ผ่อนชำระ 5 ปี ขั้นต่ำ 3 ปี ดอกเบี้ย 0.01 จากเดิม 5 ล้านบ.ชำระคืน 1 ปีอังคารนี้”

11 พ.ย. 59 พล.อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดเผยหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามนโยบายส่งเสริมการเกษตรโครงการส่งเสริมแปลงใหญ่ประชารัฐ(ข้าว) โดยผ่านศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร(ศพก.) ต.เดิมบาง อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ตนกำชับทุกพื้นที่เร่งขับเคลื่อนส่งเสริมเกษตรกร ร่วมกลุ่มกันทำแปลงใหญ่เกษตรสมัยใหม่ ให้นำเทคโนโลยีเข้ามาปรับพัฒนาให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและลดต้นทุนการผลิตให้ได้ผลจริง ซึ่งพื้นที่นี้เป็นแปลงใหญ่ด้านข้าวโดยได้นำเทคโนโลยีปรับระดับดินในแปลงนาด้วยเลเซอร์มาทดลองใช้ สามารถลดการใช้น้ำ พลังงานอื่นๆและลดปัญหาวัชพืช พร้อมกับใช้เครื่องโรยเมล็ดพันธุ์ข้าวงอกเพื่อลดการใช้เมล็ดพันธุ์และแรงงานคน มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ยลดลงร้อยละ 26.4 จาก 4,500 บาทต่อไร่ เหลือ 3,310 บาทต่อไร่ ได้ผลผลิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.5 จาก 800 กิโลกรัมต่อไร่ เป็น 900 กิโลกรัมต่อไร่ สามารถเชื่อมโยงด้านการตลาด โดยทำข้อตกลงความร่วมมือการซื้อ–ขาย ข้าวกับภาคเอกชน รับซื้อข้าวจากเกษตรกรแปลงใหญ่ทั้งหมดในราคาสูงกว่าท้องตลาด 300 บาทต่อตัน ทำให้เกษตรกรมีตลาดรับซื้อที่แน่นอน ผลผลิตตรงกับความต้องการของตลาด และขายข้าวได้ราคาสูงกว่าเกษตรกรทั่วไป นอกจากนี้ยังได้มีการบริหารจัดการการผลิต เกษตรผสมผสาน  ตามแนวพระราชทานเกษตรทษฎีใหม่ของในหลวง มาปฎิบัติในชีวิตประจำวันทำให้มีรายได้เสริมจากกิจกรรมเสริมพอเลี้ยงครัวเรือนอีกทางด้วยเป็นภูมิคุ้มกันทางรอดของเกษตรกรไทย

“เกษตรกรที่เข้าร่วมปลูกข้าวแปลงใหญ่จะมีตลาดรองรับ มีความมั่นคงในอาชีพโดยมีการเจรจาเชื่อมโยงการตลาดกับเอกชน ทำให้รู้ปริมาณที่ตลาดต้องการและคุณภาพสินค้าที่มีมาตรฐาน ทำให้ขายได้สูงกว่าตลาดทั่วไป สิ่งสำคัญเมื่อเกษตรกรร่วมกลุ่มกันได้ เกิดอำนาจต่อรองมากขึ้น จะพึ่งตนเองได้มากขึ้น เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานรากของประเทศที่มีความมั่นคงยั่งยืน ที่ผ่านมาในการปฎิรูปภาคเกษตรผมได้ขับเคลื่อนแปลงใหญ่ให้เกิดขึ้นแล้ว 655 แปลง และในปี59/60ตั้งเป้าให้มีเกษตรแปลงใหญ่ทุกด้าน 1,000 แปลงทั่วประเทศ  “รมว.เกษตรฯ กล่าว

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวด้วยว่า พร้อมเสนอครม.พิจารณาการปรับเงื่อนไขโครงการนาแปลงใหญ่จากเดิมที่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถขอสินเชื่อได้วงเงิน 5 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ร้อยละ 0.01 โดยขยายวงเงินเป็น 10 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงเดิมที่ร้อยละ 0.01% หรือ อาจจะเป็นการขยายระยะเวลาการผ่อนชำระจาก3 ปี เป็น 5 ปี หรือขยายทั้งในส่วนของวงเงินและระยะเวลาการผ่อนชำระ  เพื่อให้เกษตรกรนำเงินที่ได้มาซื้อเครื่องจักรและเทคโนโลยีมาพัฒนาพื้นที่ และนำมาใช้ในการลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยคาดว่าจะนำเสนอได้ในวันอังคารนี้

 

Leave a comment