รายงานพิเศษ : ชาวนาแปลงใหญ่อยุธยา ตอบรับเทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิตข้าว

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/244514

วันจันทร์ ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

การส่งเสริมการทำนาในรูปแบบแปลงใหญ่ของกรมการข้าว มีนโยบายมุ่งเน้นไปที่เรื่องการลดต้นทุนการผลิตข้าวเป็นหลักสำคัญ การลดอัตราเมล็ดพันธุ์ข้าวเป็นส่วนหนึ่งของการลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรได้อย่างมาก เนื่องจากเกษตรกรนิยมทำนาหว่านจะใช้เมล็ดพันธุ์จำนวนไม่ต่ำกว่า 25-30 กก.ต่อไร่ กรมการข้าวจึงมุ่งเน้นให้เกษตรกรหันมาใช้เครื่องโรยข้าวงอกที่จะช่วยลดอัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ลงเหลือ 10-12 กก.ต่อไร่ เมื่อลดการใช้เมล็ดพันธุ์ลงจากค่าเฉลี่ย 2-3 ถังต่อไร่ เหลือ 1 ถังต่อไร่ ก็สามารถลดต้นทุนในส่วนนี้ลงได้ 1 ใน 3 ส่วนจากวิธีปกติของเกษตรกร

นายอาทิตย์ กุคำอู ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวพระนครศรีอยุธยา กรมการข้าว กล่าวว่า การใช้เครื่องโรยข้าวงอกเป็นการทำนาแบบประณีต เพราะข้าวจะขึ้นเป็นแถวเป็นแนว มีระยะห่าง ข้าวไม่หนาแน่น ทำให้สะดวกต่อการเข้าไปดูแลจัดการแปลงโดยเฉพาะการตัดพันธุ์ปนหรือข้าววัชพืช ทำให้คุณภาพผลผลิตดีขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลต่อต้นทุนการบริหารจัดการด้านอื่นๆ ลดลงตามไปด้วย ทั้งค่าปุ๋ยเคมี สารเคมีกำจัดศัตรูพืช รวมถึงปัญหาโรคแมลงศัตรูข้าวก็ลดลงไปด้วยเช่นกัน พร้อมกันนี้ ยังสามารถแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนในภาคเกษตรได้ด้วยการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร ที่ใช้แรงงานน้อยแต่ให้ผลที่คุ้มค่า

ทั้งนี้ เครื่องโรยข้าวงอกนี้จะเหมาะสำหรับพื้นที่ชลประทานปลูกแบบนาน้ำตม โดยเฉพาะนาในเขตภาคกลาง อีกทั้งยังเหมาะกับรูปแบบการบริหารจัดการนาแปลงใหญ่ที่เกษตรกรรวมตัวกัน พื้นที่ 1,000-3,000 ไร่ ซึ่งกรมการข้าวสนับสนุนเครื่องให้กลุ่มละ 1 เครื่อง นำไปใช้ในการปลูกข้าวเพื่อลดต้นทุนการผลิต ในส่วนของนาแปลงใหญ่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระยะแรกก็พบว่าเกษตรกรยังไม่เชื่อมั่นในเทคโนโลยีดังกล่าว เนื่องจากใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวค่อนข้างน้อย ข้าวขึ้นเป็นแถวเป็นแนวและมีระยะห่าง ทำให้เกษตรกรรู้สึกว่าผลผลิตจะได้มากเท่าที่ควร แต่พอข้าวระยะแตกกอ รวงข้าวก็ขึ้นมาเต็มที่เหมือนวิธีทำนาหว่าน และพอเห็นว่าต้นทุนลดลงจริง ก็ให้ความสนใจและนำเครื่องไปใช้ในแปลงนาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนเกิดการยอมรับในเทคโนโลยีลดต้นทุนของกรมการข้าวในที่สุด

นายสนธยา ตรีสุทธิผล ตัวแทนเกษตรกรนาแปลงใหญ่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีการนำเครื่องโรยข้าวงอกมาใช้ เล่าว่า ทางกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ อ.บางปะหัน ได้มีการใช้เครื่องโรยข้าวงอกแทนการหว่านมาตั้งแต่ปี 2558 พบว่าสามารถลดอัตราการใช้เมล็ดพันธุ์จากเดิมที่ 30 กก.ต่อไร่ เหลือเพียง 10 กก.ต่อไร่ ช่วยลดต้นทุนการผลิตจาก 4,500 บาท/ไร่ เหลือประมาณ 3,000 บาทต่อไร่ ขณะเดียวกันผลผลิตข้าวที่ได้เพิ่มขึ้นอีกกว่า 20% นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังสามารถผลิตเครื่องโรยข้าวงอกไว้เองได้แล้ว โดยปรับปรุงรูปแบบให้มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และสะดวกต่อการใช้งานยิ่งขึ้น ซึ่งเครื่องนี้ใช้แรงงานคนเพียงคนเดียวเท่านั้น โดยภายในครึ่งชั่วโมงสามารถปลูกข้าวได้ถึง 5 ไร่ นับว่าประหยัดทั้งเมล็ดพันธุ์และแรงงาน

“อยากฝากถึงชาวนา ที่สนใจอยากจะปรับเปลี่ยนวิธีการทำนาสู่การลดต้นทุนเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้วยการใช้เครื่องโรยข้าวงอก ในระยะแรกที่ยังไม่มั่นใจก็ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไปจากเคยใช้เมล็ดพันธุ์ 30 กก. ก็อาจจะลดลงมาเหลือครึ่งหนึ่งที่ 15 กก.ก็ได้ ไม่ต้องหักดิบตามหลักวิชาการก็ได้ เพียงแต่ค่อยเป็นค่อยไปแล้วดูผลที่ออกมา ที่สำคัญการทำเกษตรในยุคนี้ต้องมุ่งเน้นเรื่องการลดต้นทุนเป็นหลักสำคัญ อย่างตนเองก็ปรับจากทำนาอย่างเดียวก็หันมาทำไร่นาสวนผสม ปลูกข้าว มะละกอ กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า เลี้ยงปลา เป็ด ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเป็นแนวทางที่จะทำให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืน สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างแน่นอน”

Leave a comment