‘ลูอิส แม็คดูกัลล์’ ดาราตัวจิ๋วแต่ฝีมือใหญ่มาก…

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/243454

วันจันทร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

A Monster Calls ภาพยนตร์ดราม่าล้ำจินตนาการ สร้างจากนิยายชื่อดังระดับรางวัล เขียนโดย แพทริค เนสส์ กับเรื่องราวของ คอนเนอร์ โอมัลลี่ (ลูอิส แม็คดูกัลล์) เด็กชายวัย 12 ปี ที่ต้องรับมือกับอาการป่วยของ ลิซซี่ (เฟลิซิตี้ โจนส์)แม่ของเขา ต้องย้ายไปอยู่ คุณยาย (ซิกอร์นีย์ วีเวอร์) ผู้เย็นชา ที่โรงเรียนคอนเนอร์ เขาถูกมองว่าเป็นตัวประหลาด ไม่สนใจเรียน แถมโดนเพื่อนร่วมห้องรังแก ส่วนพ่อ (โทบี้ เคบเบลล์) ของเขาที่ย้ายไปอยู่อเมริกา ไกลออกไปเป็นพันๆ ไมล์ ทำให้เด็กชายปรารถนาหาที่ยึดเหนี่ยว

วันหนึ่งคอนเนอร์บังเอิญได้ยินเสียงเพรียกของสิ่งลี้ลับน่าพรั่นพรึงที่โผล่ออกมาจากรากต้นยิว ที่ยืนตระหง่านมานานกว่าใครจะจำความได้ มันคือ อสูรกายต้นไม้ขนาดยักษ์ สูง 40 ฟุต (เลียมนีสัน มาแสดงโดยใช้เทคนิค โมชั่น แคปเจอร์ และ พากย์เสียง) ที่มาปรากฏข้างหน้าต่างคอนเนอร์ทุกเที่ยงคืนเจ็ดนาที อสูรกายดังกล่าวมีนิทานมาเล่าให้คอนเนอร์ฟัง และใช้จินตนาการนึกภาพตามเมื่อนิทานทุกเรื่องจบลง อสูรกายต้องการให้คอนเนอร์เล่าเรื่องตัวเองให้มันฟังบ้าง ซึ่งเป็นการเดินทางเพื่อค้นหาความกล้าหาญ ความศรัทธา และความจริงซึ่งจะเปลี่ยนแปลงชีวิตเขาไปตลอดกาล

ลูอิส แม็คดูกัลล์

เส้นทางของการแสดงของแม็คดูกัลล์ เริ่มมาจากการเป็นสมาชิกชมรมการแสดงรุ่นเยาว์ ใน เอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์บ้านเกิดของเขา การที่เขามาเป็นนักแสดงหลักตั้งแต่อายุยังน้อยนั้นเป็นเพราะ อาจารย์ประจำชมรมเห็นความสามารถเกินวัยของเขา เลยแนะนำให้ร่วมกลุ่มที่ท้าทายความสามารถกว่า ครั้งแรกที่เขาเข้าร่วม หัวหน้าฝ่ายคัดเลือกนักแสดง ออล่า โอคอนเนอร์ เข้าสังเกตชั้นเรียนเพื่อหาดาราเด็กมาร่วมแสดงใน Pan โดย โจ ไรท์

หลังการออดิชั่นใช้เวลาหลายสัปดาห์ และการทดสอบหน้ากล้องอีกหลายหลัง แม็คดูกัลล์ถูกเลือกให้เป็น นิบส์ เพื่อนรักของปีเตอร์ แพน ที่ร่วมแสดงฉากในบ้านเด็กกำพร้าตอนต้นเรื่อง เขาชอบที่ได้ฝึกสตันท์และหัดพูดสำเนียงค็อกนีย์เพื่อเตรียมรับบท

เธอกับคอนเนอร์มีด้านไหนเหมือนกันบ้าง

อาจจะตรงที่ผมก็เคยเจอความสูญเสียมาเหมือนกันมั้ง เช่นเดียวกับอีกหลายๆ คน น่าจะเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงเข้าถึงบทของคอนเนอร์ได้ ผมพยายามทำความเข้าใจเขา รู้สึกแบบที่เขารู้สึก เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกเขาออกมา

มันเป็นงานที่ยากแค่ไหนที่ต้องเล่นกับอะไรที่ไม่มีตัวตน..

คนอาจจะคิดว่าผมต้องเล่นกับลูกเทนนิสไว้มาร์คจุดแค่นั้นเอง แต่ไม่ใช่เลย พวกเขาทำหน้าอสูรกาย มีกลไกให้ปากมันขยับได้ตาเปิดปิด ยิ่งบวกกับเสียงเลียมที่เปิดผ่านลำโพงแล้ว มันช่วยให้ง่ายขึ้นเยอะเลย มันยากนิดหน่อยเพราะเทคนิคนั้นแหละ ผมยังได้เล่นแบบตัวต่อตัวกับเลียมด้วย พวกเขาใช้เวลา 2 อาทิตย์ ถ่ายโมชั่นแคปเจอร์ เจ้าอสูรกายนี้พูดแบบเลียม นีสัน เดินแบบ เลียม นีสัน ผมต้องเล่นโต้ตอบกับเขา ผมต้องยืนอยู่ด้านหนึ่งของห้องและเลียมก็ยืนอยู่ตรงข้ามอีกด้าน แต่ในจอดูเหมือนว่าผมยืนอยู่ตรงหน้าเขาเลย เลียมคอยช่วยผมในทุกฉากที่เราแสดงด้วยกัน

หนังเรื่องนี้เศร้าพอสมควร มีปัญหาในการดึงตัวเองออกมาจากตัวละครบ้างไหม ?

เอาจริงๆ นะ ทุกครั้งหลังจากที่ผมเล่นซีนอารมณ์ เมื่อจบวันผมแทบจะดิ่งกลับบ้านไปนอนบนเตียงเลย ไม่อยากทำอะไรอีกนอกจากนอน

ช่วยบรรยายอสูรกาย ให้ฟังหน่อย? หนังเรื่องที่สองของคุณเท่านั้นเอง?

เขาเหมือนเสียงสะท้อนจากชีวิตจริง ตัวละครคอนเนอร์นั้นแหละเขามาเพื่อจะบอกว่า “ชีวิตมันไม่สมบูรณ์แบบหรอก คุณต้องเจอกับเรื่องร้ายๆ แบบนี้เข้าสักวันอยู่แล้ว คอนเนอร์แค่ต้องเผชิญก่อนคนอื่นแค่นั้นเอง”

ร่วมงานกับสุดยอดนักแสดงหญิงทั้ง เฟลิซิตี้ โจนส์ และ ซิกอร์นีย์ วีเวอร์ ทั้งคู่เป็นอย่างไรบ้าง ?

น่าเหลือเชื่อ ทั้งคู่เก่งมากๆ ผมเรียนรู้อะไรได้เยอะ จริงๆ แล้วก่อนเปิดกล้อง ผมได้ไปเที่ยวสวนสัตว์กับเฟลิซิตี้ เราได้รู้จักกันมากขึ้นสนิทกันมากขึ้น คุณรู้มั้ยความสัมพันธ์ของ คอนเนอร์และแม่ของเขามันไม่ใช่แค่แม่ลูก เหมือนพี่น้อง เหมือนเพื่อนรัก ซึ่งการที่เราสนิทมัน มันช่วยได้เยอะเลย เธอทำเหมือนผมเป็นรุ่นเดียวกัน ไม่ใช่คอยโอ๋เมื่อผมเล่นไม่ได้ ซึ่งมันดีต่อพัฒนาการในอาชีพนี้ของผมมาก

เล่าถึงการถ่ายทำ เป็นยังไงบ้าง

ก็หนัก เราถ่ายกันมาราธอนมาก สำหรับผมยิ่งยากเป็นพิเศษกว่านักแสดงผู้ใหญ่ พวกเขายังพอมีเวลาพักเมื่อไม่มีคิวถ่าย แต่ผมต้องนั่งทำการบ้านเลข (หัวเราะ) บาโยน่ากระตุ้นให้ผมทำมันให้ดีขึ้นตลอด และเมื่อถ่ายเสร็จทุกซีนเขาจะได้เข้ามากอดผม แล้วบอกว่า “ขอบคุณ”

Location ไปถ่ายทำไกลถึง บาร์เซโลน่า

แน่นอน มันคือข้อดีอีกอย่าง และเราถ่ายทำที่สตูดิโอในบาร์เซโลน่า ตัวผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ทีมฟุตบอลบาร์เซโลน่าเลย และอีกวันผมได้ไปดูที่สนามคัมป์นูว สนามเหญ้าของพวกเขา ผมไม่มีวันลืม บรรยากาศนั้นเลย

ในฉากมีความบ้าคลั่ง ทำลายข้าวของ?

มันสนุกมากครับ ผมไม่คิดว่าชีวิตจริงจะได้ทำอย่างนั้นอีกแล้ว (หัวเราะ) มีบางช่วงที่ผมได้ใช้ไม้ฟาดกระจกหน้าต่าง มันสะใจมาก

ประทับใจฉากไหนในเรื่องมากที่สุด ?

น่าจะเป็นฉากในโรงพยาบาลกับเฟลิซิตี้ มันเป็นช่วงใกล้ไคลแมกซ์ ไม่สิเรียกว่าเป็นประตูสู่ไคลแมกซ์เลยดีกว่า มันเป็นซีนอารมณ์ที่ยากมาก ผมเล่นไปสองสามเทค ถึงคิดได้ว่าคอนเนอร์ติดอยู่ระหว่างความต้องการจะเข้มแข็งเพื่อแม่ในขณะเดียวกับที่หัวใจของเขาแตกสลาย เมื่อเทคที่ 4 ผ่าน ผมดูตัวเองแสดงเป็นเขาแสดงในซีนนั้นมันทำให้ผมเกือบลืมหายใจ คุณสามารถเห็นความทุกข์ทรมานทั้งหมดผ่านทางสีหน้า

ในที่สุดผลงานทำเอาตัวเองถึงกับปล่อยโฮ

นิดหน่อยครับ ตอนผมดูก็น้ำตาคลอเหมือนกัน แต่ไม่ใช่เพราะตัวเนื้อเรื่องนะ แต่ผมดีใจที่เห็นผลงานที่พวกเราทุ่มเท่ไปออกมาดีต่างหาก ผมดีใจแทนทุกคนและขอบคุณทุกคนมากๆ

 

 

Leave a comment