ออกอากาศให้ได้ชมกันแล้ว กับละคร “ดาวหลงฟ้า ภูผาสีเงิน” ที่ผลิตโดยบริษัท กันตนา เอฟโวลูชั่น จำกัด ภายใต้การดูแลของผู้จัดไฟแรง สตางค์-ดิษย์ลดา ดิษยนันทน์ 1 ในทายาทกันตนา ที่มีกระแสตอบรับหลากหลาย ด้านบอสใหญ่กันตนา ตุ๊กตา-จิตรลดา ที่เคยฝากฝีมือไว้ในเวอร์ชั่นก่อน ก็แอบลุ้นกับผลงานลูกสาวอยู่เช่นกัน

“ภูมิใจมากค่ะที่สตางค์เห็นคุณค่าและนำละครเรื่องนี้กลับมาทำใหม่ เพราะเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เราได้ดูเวอร์ชั่นนี้แล้ว ต้องบอกเลยว่าแนวคิดการตีโจทย์ของคนรุ่นใหม่เขาดีมาก มีการปรับเปลี่ยนบางจุด เพราะเราก็มองว่าถ้าทำแล้วเหมือนเดิมจะทำทำไม ต้องมีการปรับเปลี่ยน และภาพรวมเวอร์ชั่นนี้เปลี่ยนแปลงไปทางที่ดี ซึ่งในเวอร์ชั่นแรกที่เราทำนั้นจะเป็นสไตล์เรียบๆ ใสใส เพราะด้วยข้อจำกัดบางประการ การถ่ายทำก็เป็นการถ่ายไปออกไปในช่วงนั้น ทำให้ยังมีข้อผิดพลาดหลุดรั่วอยู่หลายจุด แต่เวอร์ชั่นนี้ทำให้สามารถใส่รายละเอียดบทได้ครบรสขึ้น จะใส่บทรักก็รักได้เต็มที่ ใส่บทบู๊ก็บู๊ได้จัดเต็ม และมีแทรกตลกให้คนดูได้ผ่อนคลาย ซึ่งเป็นแนวรักกุ๊กกิ๊กแอ๊กชั่นคอเมดี้ครบรส ด้านโลเกชั่น ต้องบอกเลยว่าในเวอร์ชั่นนี้ได้ทำขึ้นแบบตามบทประพันธ์ที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งในเวอร์ชั่นที่แล้วเราตั้งใจว่าเมืองซามาร์ตามบทประพันธ์จะต้องเป็นเมืองแถบเอเชียใต้อยู่แล้ว แต่ช่วงนั้นเจอปัญหาด้านการเมืองในประเทศ เราจึงเบนเข็มมาถ่ายเวียนนา และคราวนี้ก็ลองคุยกันดู สตางค์เขาก็มุ่งมั่น ลองไปดูโลเกชั่น ลองไปติดต่อเอง แล้วเขาก็ตัดสินใจพาทีมไปถ่ายทำ ซึ่งออกมาก็สวยงามตรงตามบทประพันธ์อย่างที่คนเขียนเขาตั้งใจไว้แต่แรก

ดาวหลงฟ้า ภูผาสีเงิน ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชั่นแรก หรือเวอร์ชั่นปี 2016 กันตนาก็เป็นคนทำทั้งคู่ แต่ต้องบอกว่าเวอร์ชั่นนี้ลูกเขาทำได้อลังการกว่าตอนสมัยเราทำเยอะ และลงทุนเยอะกว่ามาก ก็ต้องชมเขา เพราะเขาตั้งใจมากกับเรื่องนี้”

บินลัดฟ้าไปเรียนเพิ่มเติมด้านดนตรีที่ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ด้วยอารมณ์ของศิลปินบวกกับความเหงาของสาว เอิ๊ต-ภัทรวี ศรีสันติสุข ในฐานะนักเรียนต่างแดน จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจ ให้เอิ๊ตอยากใช้เวลาทำเพลง โดยเริ่มจากการเขียนเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ และอัดร้องง่ายๆในห้องนอนของตัวเอง นำมาเรียบเรียง ทำหน้าที่โปรดิวเซอร์เอง จนเป็นเพลง “Starry Night (สตาร์รี ไนท์)”

นับเป็นเพลงเปิดตัวในบ้านหลังใหม่ มิวสิคมูฟ เรคคอร์ด ในเครือมิวสิคมูฟ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ หลังจากหายหน้าหายตาไปนาน กลับมาพร้อมกับมาดนักดนตรีเต็มตัว ซึ่งเพลงนี้เธอตั้งใจปล่อยให้ทุกคนฟังกันในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ เปิดทางให้หายคิดถึงก่อนมีซิงเกิ้ลให้รอฟังกันต่อในปีหน้า 2017

เอิ๊ต เล่าว่า “การทำงานข้ามทวีปเป็นไปอย่างเรียบง่าย รวมถึงมิวสิกวีดีโอที่ถ่ายทำกันเอง เล่าด้วยความรู้สึกเทาเทาในช่วงอากาศหนาวของเมลเบิร์น ให้เข้ากับเนื้อเพลงที่พูดถึงของความเหงาของคนคนหนึ่ง ค่อยๆ เกิดเป็นความอิจฉาต่อผู้คนที่อยู่รอบตัว ที่กำลังมีความสุข หรือกับคนที่มีคู่รัก อยู่ด้วยกันในค่ำคืนพิเศษ เอิ๊ตให้เพลงนี้พูดแทนเวลารู้สึกของหนุ่มสาวคนโสด และอยากบอกทุกคนให้รู้สึกดีต่อใจขึ้นบ้าง เมื่อรู้ว่าคุณก็ไม่ได้เหงาอยู่คนเดียวหรอกนะ”