ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/entertain/248282
วันอาทิตย์ ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
ในที่สุด “นศ.พ.เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช” หรือ “ริท เดอะสตาร์” ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวพอคเกตบุคเล่มแรกในชีวิต ชื่อว่า “ทำทุกอย่างให้สุด Ritz” ที่ร้านหนังสือ ซีเอ็ดบุ๊คส์ชั้น 5 เซ็นทรัลแกรนด์ พระราม 9 เมื่อวันก่อน ท่ามกลางแฟนคลับ นักอ่านและสื่อมวลชนจำนวนมาก โดยริทเผยถึงแรงบันดาลใจที่ทำพอคเกตบุคเล่มนี้ให้ฟังว่า
“ริทไม่ได้ต้องการอวดอ้างสรรพคุณตัวเอง และไม่ได้ต้องการเขียนชีวิตดาราเลย แต่ในฐานะที่อยู่ในจุดที่มีคนรู้จัก และแฟนคลับจะมีเด็กๆ ในวัยเรียนค่อนข้างเยอะ หลายๆ คนเห็นริทเป็นแบบอย่างในเรื่องการเรียน หลายครั้งจะมีผู้ปกครองเดินจูงลูกเข้ามาหาแล้วบอกว่า แต่ก่อนน้องมีผลการเรียนไม่ดี แต่พอได้เห็นริทเป็นตัวอย่างก็สามารถได้เกรดสี่หรือสอบติดโรงเรียนนั้นโรงเรียนนี้ได้ ริทจึงคิดว่าถ้าริทได้ถ่ายทอดประสบการณ์ความคิดและชีวิตที่ตั้งใจและพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดตลอดมาคงเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คน ในวงกว้างมากขึ้นเพราะริทเชื่อว่าถ้าริททำได้คนอื่นก็ทำได้”
แต่การเรียนเก่งก็ต้องขึ้นอยู่กับสมองดีด้วย
“ริทไม่ได้มีต้นทุนเหนือใคร เป็นเด็กติดเกมขั้นหมกมุ่น ไม่ใช่เด็กเรียนที่อ่านหนังสือตลอดเวลา เป็นคนที่ความจำไม่ค่อยดีอีกต่างหาก แต่ริทก็ทำตามความฝันสอบติดหมอได้ แล้วก็ยังทำงานในวงการบันเทิงควบคู่ไปด้วยได้ ไม่ใช่เรื่องสมองดีกว่าใครแน่นอน ต้องมีอะไรมากกว่านั้น”
พูดถึงเรื่องเกมจะโกรธมากถ้าใครบอกว่าเด็กติดเกมเป็นเด็กไม่เอาไหน
“เกมเป็นอีกโลกหนึ่งของริทก็ว่าได้ที่ทำให้มีความสุขและสนุก ริทเล่นเกมแต่การเรียนก็ไม่ได้เสีย นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อยากให้ผู้ปกครองได้อ่านพอคเกตบุคเล่มนี้ แล้วเปลี่ยนทัศนคติใหม่เกี่ยวกับการเล่นเกมของลูก ส่วนเด็กๆ ที่ติดเกมก็ลองอ่านแล้วดูริทเป็นตัวอย่าง ว่าเราสามารถเล่นเกมได้พร้อมๆ ไปกับทำผลการเรียนให้ดีไปพร้อมกันได้อย่างไร”
ยกตัวอย่างเคล็ดลับในพอคเกตบุคที่สำคัญมีอะไรบ้าง
“อ่าน-คิด-เชื่อมโยง-เข้าใจ เป็นเคล็ดลับสำคัญอย่างหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น เวลาเรียนหรืออ่านหนังสือ ริทจะตีความว่า
ความรู้ต่างๆ มันสอดคล้องกันอย่างไร ถ้าหาความสัมพันธ์กันไม่ได้ เพราะพื้นความรู้ที่มีอยู่เรายังไม่เพียงพอ ริทจะพยายามหาคำตอบด้วยตัวเองก่อน ด้วยการค้นหาในอินเตอร์เนต ถ้ายังไม่เข้าใจ ก็จะถามเพื่อนที่เก่งๆ ว่า อาจารย์สอนตรงนี้อย่างไร สุดท้ายถ้ายังไม่เข้าใจอีก ริทจะถามอาจารย์ จนกว่าจะเข้าใจจริงๆ”

แล้วใครคือแรงบันดาลใจสำคัญผลักดันให้ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด
“ริทคิดว่าพ่อและแม่ตั้งแต่เด็กริทเห็นพ่อแม่สร้างเนื้อสร้างตัวจากแต่ก่อนที่มีบ้านชั้นเดียวครอบครัวเรามี 5 คนต้องนอนรวมกันในห้องเดียวจนตอนนี้มีตึกแถว 3 ชั้นได้นอนคนละห้องก็เลยมีความตั้งใจเองว่าจะพยายามเรียนให้เก่งเพื่อให้พ่อและแม่ได้ภูมิใจ แล้วยังมีเหตุการณ์หนึ่งที่จำได้ติดใจเลยวันหนึ่งสมัยเด็กๆ แม่ไปส่งริทและน้องชายที่โรงเรียนตอนลงจากรถแม่ก็ยื่นเงิน 20 บาทให้น้องเป็นค่าบำรุงห้องสมุดแต่ไม่ให้ริทแม่บอกว่าริทโตและมีเงินเก็บแล้วก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงไม่ยอมเถียงๆ จนแม่พูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ ว่าแค่นี้ทำไมริทยอมไม่ได้เลยหรือลูก แล้วก็เห็นน้ำตาแม่วันนั้นจำได้ว่าเรียนไม่รู้เรื่องเลย รู้สึกผิดมีความคิดว่าจะไม่ทำให้คนที่เรารักที่สุดต้องเสียน้ำตาด้วยความเสียใจอีกยิ่งเป็นเรื่องที่ตอกย้ำให้ริทพยายามเรียนและทำทุกอย่างให้เต็มที่เพื่อไม่ให้แม่ต้องเสียน้ำตาเพราะริทอีก”
สรุปอ่านพอคเกตบุคเล่มนี้จบจะได้อะไร
“นอกจากวิธีคิดผ่านเส้นทางชีวิตและ 15 เคล็ดลับการเรียนเก่งที่ริทใช้มาตลอดการเรียนแล้วในพอคเกตบุคเล่มนี้จะเห็นว่าริทใช้ภาษาอังกฤษอยู่ 3 D คือ Duties Dreams และ Do You Best ริทเชื่อว่าคนที่จะประสบความสำเร็จและมีความสุขในชีวิตจะต้องทำทั้งสองอย่างคือหน้าที่และความฝันให้ดีที่สุดโดยไม่จำเป็นต้องทิ้งสิ่งหนึ่งเพื่อสิ่งหนึ่งซึ่งริททดลองมาแล้วและอย่างที่ย้ำเสมอว่าริทเป็นคนธรรมดาถ้าริททำได้ใครๆ ก็ทำได้”
