ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 19 ธ.ค. 2559 04:55
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/815101

กลายเป็นปัญหาด้านความมั่นคงระหว่างสหรัฐฯกับจีน หลังเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา กองทัพเรือจีนยึดยานใต้น้ำไร้คนหรือยูวีวีของสหรัฐฯ ในพื้นที่ทะเลจีนใต้ห่างจากอ่าวซูบิคของฟิลิปปินส์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 90 กิโลเมตร และต่อมากระทรวงกลาโหมเพนตากอนของสหรัฐฯ ได้เรียกร้องผ่านช่องทางการทูต ให้ทางการจีนส่งมอบยานคืนมาทันที เพราะเป็นยานวิจัยทางทะเล และทำหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าวอย่างถูกกฎหมาย
ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. นายหยาง ยู่จุน โฆษกกระทรวงกลาโหมจีน ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า เรือกู้ภัยของกองทัพเรือจีนได้พบอุปกรณ์ไม่ทราบชนิดในทะเลจีนใต้ และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ชนิดไปสร้างอันตรายต่อเรือที่สัญจรไปมา จึงได้ทำการตรวจสอบอย่างมีความรับผิดชอบและเป็นมืออาชีพ ซึ่งหลังจากพบว่าเป็นยานใต้น้ำของสหรัฐฯ จึงได้ตัดสินใจที่จะส่งมอบคืนให้สหรัฐฯผ่านช่องทางที่ถูกต้อง ซึ่งต่อมานายปีเตอร์ คุก โฆษกส่วนตัวของนายแอช คาร์เตอร์ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่า หลังจากการติดต่อโดยตรงไปยังทางการจีน ทำให้เราได้รับความเข้าใจมาแล้วว่า จีนจะคืนยานใต้น้ำมูลค่ากว่า 150,000 ดอลลาร์ให้เรา แต่มิได้ระบุถึงกรอบเวลาการส่งมอบคืน
อย่างไรก็ตาม นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ระหว่างเดินสายขอบคุณผู้สนับสนุน ได้เขียนข้อความลงเครือข่ายสังคมออนไลน์ทวิตเตอร์ว่า รัฐบาลสหรัฐฯควรบอกกับจีนไปเลย ว่าเราไม่ต้องการยานใต้น้ำที่ถูกขโมยไปคืน ให้พวกเขาเอาไปเลย! ขณะที่วันก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ยังเขียนข้อความในทวิตเตอร์ด้วยว่า จีนขโมยยานวิจัยสหรัฐฯในน่านน้ำสากล ถือเป็นการกระทำที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กระนั้นทางการจีนยังไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆต่อถ้อยคำของนายทรัมป์ครั้งนี้
ทั้งนี้ นายเจฟฟ์ เดวิส โฆษกกระทรวงกลาโหมเพนตากอน ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกในช่วงประวัติศาสตร์ยุคปัจจุบันที่ทางการจีนยึดยานทางทะเลของสหรัฐฯ ขณะที่นักวิชาการมองว่าถือเป็นข้อพิพาทระหว่างกองทัพของทั้งสองฝ่าย นับตั้งแต่ปี 2544 ที่เครื่องบินลาดตระเวนกองทัพเรือสหรัฐฯชนกลางอากาศกับเครื่องบินขับไล่จีน บริเวณเกาะไหหลำ จนนักบินจีนเสียชีวิต
วันเดียวกัน โฆษกทำเนียบขาวสหรัฐฯยังปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อกรณี นายโรดริโก ดูเตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ไม่พอใจองค์กรช่วยเหลือของสหรัฐฯ ที่จะพิจารณาเรื่องงบช่วยเหลือฟิลิปปินส์ใหม่ และขู่ว่าจะไม่ให้ทหารอเมริกันเข้าฟิลิปปินส์.