ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/246503
วันอาทิตย์ ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.
ถ้าจะมองหาหนังสือที่ให้ความรู้เกี่ยวกับภาคเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็นปลูกพืช หรือเลี้ยงสัตว์ สำนักพิมพ์ “บ้านและสวน” ผลงานในเครือ ของบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง ถือเป็นแหล่งผลิตที่น่าสนใจที่จะเข้าไปเลือกซื้อหามาอ่านและเก็บเอาไว้เป็นตำราประจำบ้าน เพราะหนังสือของสำนักพิมพ์นี้ จัดพิมพ์เพื่อต้องการให้เก็บเอาไว้ได้นาน แถมยังใช้เป็นของประจำบ้านเพื่อการต้อนรับแขกผู้มาเยือนได้ด้วย เนื่องจากหนังสือส่วนใหญ่จะจัดทำด้วยกระดาษอย่างดี หนาทนทาน มีภาพสวย เนื้อหาเขียนอ่านง่าย รูปภาพที่นำมาประกอบก็ชวนให้สะดุดตาพร้อมที่จะเปิดอ่าน แบบว่า เพียงเห็นแค่ภาพก็เกิดความรู้ความเข้าใจแล้ว
สัปดาห์นี้ผม มีตัวอย่างหนังสือเกี่ยวกับภาคเกษตรกรรม มาแนะนำให้รับทราบกันสี่เล่ม (ที่ผมมีอยู่ในบ้าน) ซึ่งให้คุณค่า ทั้งเป็นความรู้ และการนำเอาไปสร้างงานได้ด้วยตัวเองในยามว่าง ถือว่าเป็นงานอดิเรกในยามว่างได้เป็นอย่างดี
เรื่องแรก ที่ผมชอบหยิบมาอ่านบ่อยที่สุด เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถนำเอามาปฏิบัติได้ คือ เรื่อง ผลไม้ในสวน เป็นหนังสือกล่าวถึงผลไม้ที่พบเห็นอยู่ทุกฤดูกาล อาทิ กระท้อน ชมพู่ น้อยหน่า มะม่วง ลองกอง เงาะ มะพร้าว ทุเรียน เป็นต้นทำให้เกิดอาการอยากปลูก ด้วยการเดินไปหาซื้อกิ่งพันธุ์มาปลูกไว้ในบ้าน หนังสือเล่มนี้ทุกอย่างดีหมด มีตำหนิอยู่หน่อยตรงที่ ใช้ตัวหนังสือเล็กเกินไป (ไม่เห็นใจพวก สว.ที่มีอายุมากๆ บ้างเลย)
เรื่อง การเพาะเลี้ยง แคคตัส หรือที่ชาวบ้านเรียกรวมๆ กันว่า ต้นตะบองเพชรซึ่งมีทั้งภาพและเรื่องมากกว่า 1,000 ชนิด
เรื่อง เฟิร์นก้านดำ เป็นการแนะนำให้รู้จัก และบอกวิธีเลี้ยง ต้นเฟิร์น แบบชนิด ก้านดำ โดยผู้เขียนได้ถ่ายทอดประสบการณ์ที่ได้เลี้ยงเฟิร์นก้านดำมากว่า 10 ปี บอกเล่าให้รู้วิธีเลี้ยงเฟิร์นชนิดนี้ มากกว่า 100 ชนิด ซึ่งแม้จะเลี้ยงยาก แต่ผู้เขียนได้บอกเคล็ดลับจากประสบการณ์ให้ทราบแบบ เอาไปแก้ปัญหาที่จะเกิดได้ในระดับหนึ่ง
ส่วนเรื่องของ การเลี้ยงสัตว์ หนังสือ ชื่อ การเลี้ยงนกเขาใหญ่ แม้ผมจะไม่เก็บหลักการและวิธีการไปเพาะเลี้ยง (เพราะไม่อยากเอามันมากักขังไว้ในกรง) แต่เมื่ออ่านแล้วก็ได้รับรู้เรื่องราวชีวิตของเจ้าสัตว์ชนิดนี้ได้เป็นอย่างดีว่า มันสามารถทำเงินให้กับคนที่เลี้ยงอย่างจริงจังได้ไม่น้อยทีเดียว
หนังสือทุกเล่ม ทุกเรื่อง จะมีรูปแบบเดียวกัน คือ บอกถึงประวัติความเป็นมาของพืชและสัตว์นั้นๆ บอกวิธีเลือกสายพันธุ์ บอกวิธีการปลูก บอกวิธีการขยายพันธุ์รวมถึงบอกตลาดเพื่อการสร้างเม็ดเงินให้ทราบอีกด้วย แถมบางอย่างที่นำไปทำเป็นอาหารหรือขนม บางเรื่อง บางเล่ม ก็จะมีสูตรของขนม หรืออาหารแถมไว้ให้ทดลองทำกันด้วย
ในยามที่คนปลดเกษียณจากการทำงานแล้ว แล้วต้องการจะมีงานทำแก้เหงา หนังสือประเภทนี้จะเป็นเพื่อนที่ดี แต่สำหรับคนที่ยังไม่เกษียณ สาระจากหนังสือเหล่านี้สามารถเอาไปสร้างเป็นงานเสริมจากงานประจำ โอกาสในการหาเงินเข้าบ้านก็มีให้เห็นไม่น้อยทีเดียว
ซึ่งผมบอกตรงๆ ว่า งานด้านเกษตรกรรม หากรัก และสนใจที่อยากจะทำ ควรทำตั้งแต่เรายังหนุ่มแน่นครับ เพราะเรามีเวลาที่จะรอคอยความสำเร็จของมันทัน อย่าไปคิดทำเมื่อตอนปลดเกษียณแล้ว เพราะตอนนั้นร่างกายของเรามันเหนื่อยล้าเต็มทีแล้ว แล้วแถมเวลามันก็เหลือน้อย ประโยชน์มันก็จะได้เพียงเป็นงานอดิเรกแก้เหงา แต่ไม่ก่อให้เกิดการเพิ่มพูนทรัพย์สินเหมือนเราทำตอนที่ยังหนุ่มแน่นครับ

เดินเรื่องด้วยภาพ ทั้งความสุขและความทุกข์
สร้างอารมณ์สั่นสะเทือนจิตใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เรื่องรัก เรื่องเศร้า เรื่องเล่าชาวนิวยอร์ก หรือHumans of New York Stories เป็นหนังสือในแนวเดินเรื่องด้วยภาพ คือ ใช้รูปภาพเป็นหลัก เพื่อบอกข่าวเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้คนอ่านได้รับรู้ ในทำนองภาพหนึ่งภาพสามารถบอกเล่าเรื่องราวได้เป็นร้อยเรื่อง ที่จัดทำขึ้นโดย “แบรนดอน สแตนตัน” ช่างภาพหนุ่มธรรมดาๆ ที่สามารถสะท้อนภาพของผู้คนในมหานครนิวยอร์ก ให้คนทั้งโลกรับรู้ถึงความสุข ความทุกข์ของผู้คนในเมืองใหญ่ แปลเป็นไทยโดย “โตมร ศุขปรีชา” จำหน่ายใน ราคา 455 บาท ภาพทั้งหมดที่มีนับเป็นร้อยภาพ สามารถสร้างอารมณ์สั่นสะเทือนจิตใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยทุกเรื่อง ทุกอารมณ์คือสิ่งที่ดำเนินอยู่ในมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาในทุกวันนี้

เผยหัวใจ5ภาคของการสร้างความพอเพียง
ศาสตร์แห่งการบริหารที่ฉลาดปราดเปรื่อง
“How to be เศรษฐีพอเพียง” เขียนโดย “ดร.อัจฉราโยมสินธุ์” จำหน่ายเล่มละ 225 บาท เป็นเรื่องราวที่น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์และถ่ายทอดออกมาเป็นวิธีการที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ โดยเนื้อหาแบ่งเป็น 5 ภาคคือ ภาค 1 อยากเป็นเศรษฐีต้องพอเพียง : เงินที่หามาได้ไม่มีค่าเท่าเงินที่รักษาไว้ได้ ภาค 2 ธรรมะพอเพียง : สติมา สตางค์อยู่ เคล็ดลับที่เลิศที่วิเศษทางการเงิน ภาค 3 สร้างสมดุลทางการเงิน : ปฏิรูปพฤติกรรม 10 นิสัยยอดแย่ทางการเงินวางแผนการเงินแบบ ม้าคึกคัก ภาค 4 เศรษฐีลงทุน เล่นหุ้นอย่างพอเพียง : ลดความเสี่ยงเพิ่มความรวย ภาค 5 เศรษฐีน้อยพอเพียง : 4 เคล็ดลับสร้างเศรษฐีน้อย การปลูกฝังแนวคิดที่ถูกต้องให้เด็กๆ ได้ทำในสิ่งที่ควรทำ เนื้อหาของหนังสือเล่มนี้ทำให้มองเห็นว่าหลักคิดเศรษฐกิจพอเพียงเป็นศาสตร์แห่งการบริหารที่ฉลาดปราดเปรื่องที่ผู้คนทั่วโลก ต่างยอมรับ

สร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต
จากนักเขียน-นักพูดที่ประสบความสำเร็จ
“หยุดพูดแล้วลงมือทำซะ!” (Just Shut Up And Do It :7 Steps To Conquer Your Goals) จำหน่ายในราคา230 บาท เป็นเรื่องราวดีๆ ที่จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตให้กับผู้อ่าน จากผลงานของ “ไบรอัน เทรซี” นักเขียน-นักพูดที่ประสบความสำเร็จและรอบรู้ในด้านการพัฒนาตัวเอง แต่งโดย “ไบรอันเทรซี” แปลไทยโดย “วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ” เนื้อหาที่กล่าวถึง เป็นวิธีง่ายๆ ที่เราสามารถฝึกฝนและนำไปใช้งานได้ ที่จะช่วยให้คุณทำตามความหวังและความฝันได้เร็วขึ้น เป็นวิธีที่จะพัฒนาศักยภาพของคุณให้โดดเด่นจนคุณสามารถที่จะบรรลุความสำเร็จ ผ่านสาระ 7 บท คือความสำเร็จ อุปสรรคขัดขวางความสำเร็จ, รับผิดชอบชีวิตตัวเอง, ก้าวที่กล้า, ตัดสินใจว่าอะไรที่คุณต้องการ, ชนะนิสัยผลัดวันประกันพรุ่ง, เรียนรู้ชีวิต และอย่ายอมแพ้

สาระประจำบ้านที่คนไทยทุกคนต้องรู้
กฎหมายประชาชน/กฎหมายใหม่ พ.ศ.2559
คนในประเทศทุกคนจะปฏิเสธความผิด โดยอ้างว่า ไม่รู้กฎหมายไม่ได้ เพราะกฎหมายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กรอบที่ถูกกำหนดสร้างขึ้นเพื่อให้สังคมสงบสุข ด้วยความจำเป็นเช่นนี้“คมกริช วัฒนเสถียร” เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา จึงออกหนังสือ มาวางตลาดเพื่อเผยแพร่ให้คนไทยได้รู้เรื่องกฎหมาย สองเล่ม ในราคาขายที่ไม่สูง ได้แก่ เรื่อง “กฎหมายประชาชน” เล่มละ 180 บาท และเรื่อง “กฎหมายใหม่ พ.ศ.2558-2559” ราคา 200 บาท โดยผู้เขียนบอกว่า การศึกษาเรียนรู้มีความสำคัญต่อชีวิตมาก ซึ่งการศึกษาจะมีทั้งในสถาบันและนอกสถาบัน หนังสือทั้งสองเล่มนี้จัดว่าเป็นการแสวงหาความรู้ในแบบนอกสถาบันที่มีประโยชน์ต่อชีวิตอย่างยิ่ง
