น้อมนำหลักทรงงาน‘รัชกาลที่9’ l สร้างความมั่นคงด้านน้ำพื้นที่ลุ่ม‘แม่กลอง’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/247526

วันจันทร์ ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

นายประวัติวิทย์ สวัสดิ์ดวง ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 13 เปิดเผยว่า สำนักงานชลประทานที่ 13 ซึ่งรับผิดชอบดูแลลุ่มน้ำแม่กลอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหลายโครงการที่ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับราษฎร โดยเฉพาะโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อแก้ปัญหาจากขาดแคลนน้ำ น้ำท่วม และคุณภาพน้ำ เช่น อ่างเก็บน้ำโป่งกระทิง อ่างเก็บน้ำห้วยมะหาด อ่างเก็บน้ำชัฏป่าหวาย โครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยตะเพิน โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยกระพร้อย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีโครงการเพื่อการพัฒนาดิน ได้แก่ โครงการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นการฟื้นฟูดินหรือป่าโดยไม่ต้องปลูก โครงการเกี่ยวกับการป้องกันน้ำเค็ม ได้แก่ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำและระบบชลประทานตำบลสามพรานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่ช่วยป้องกันน้ำเค็มไม่ให้รุกเข้ามาสร้างความเสียหายแก่เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไม้และส้มโอ เป็นต้น โครงการเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ประชาชนอย่างครบวงจรได้แก่ โครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

“ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ สำนักงานชลประทานที่ 13 ได้น้อมนำหลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทั้ง 21 ข้อ มาเป็นหลักในการทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อาทิ ระเบิดจากข้างใน ไม่ติดตำรา ประหยัด เรียบง่าย ได้ประโยชน์สูงสุด ขาดทุนคือกำไร ประโยชน์ส่วนรวม เป็นต้น”

นายประวัติวิทย์ กล่าวต่อว่า ลุ่มน้ำแม่กลองเป็นลุ่มน้ำใหญ่รองจากลุ่มน้ำเจ้าพระยา ถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำสำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทยเพราะมีพื้นที่เกษตรกรรมถึง 5.25 ล้านไร่ ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ชลประทาน 2.34 ล้านไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด ซึ่งปกติลุ่มน้ำแม่กลองจะปลูกข้าวทั้งข้าวนาปีและนาปรัง แต่ 2 ปีที่ผ่านมาเจ้าพระยาประสบปัญหาน้ำน้อย ต้องสำรองน้ำเพื่อผลักดันน้ำเค็มจึงต้องปรับลดน้ำเพื่อการเกษตรลง

สำหรับฤดูแล้งในปี 2560 ซึ่งในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่กลอง จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.2560 สำนักงานชลประทานที่ 13 ได้วางแผนใช้น้ำต้นทุนจากเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ จำนวน 2,950 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) โดยจะจัดสรรเพื่อการอุปโภค-บริโภค 300 ล้านลบ.ม. รักษาระบบนิเวศน์ 1,700 (ให้แม่น้ำแม่กลอง 1,200 ล้านลบ.ม และให้แม่น้ำท่าจีน
500 ล้านลบ.ม.) ที่เหลือเอาไปใช้เพื่อการเกษตร อย่างไรก็ตามคาดว่า การใช้น้ำจริงๆ อาจจะน้อยกว่าแผนที่กำหนดไว้เพราะมีฝนตกในพื้นที่ท้ายเขื่อนค่อนข้างมาก ทั้งนี้จะปล่อยน้ำผ่านเขื่อนแม่กลองในอัตรา 70 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือวันละ 6 ล้านลบ.ม.

Leave a comment