‘มือใหม่’ถอดใจเกษตรอินทรีย์ สศท.3ชง4แนวทางปรับเปลี่ยน/ยันได้ผลผลิตสูงขึ้น

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/247175

วันศุกร์ ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.

นายคมสัน จำรูญพงษ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 3 จังหวัดอุดรธานี (สศท.3) ได้สำรวจเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ใน จ.หนองคาย ปี 2559 พบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่อยู่ในระยะปรับเปลี่ยน 1-3 ปี จากเคมีมาทำเกษตรอินทรีย์ โดยยังมีเกษตรกรบางส่วนไม่เข้าใจการทำเกษตรอินทรีย์ และไม่ได้นำความรู้จากการอบรมไปปฏิบัติในฟาร์ม รวมทั้งปัญหาเรื่องน้ำ สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการทำเกษตรอินทรีย์ ทำให้บางรายถอดใจกลับไปทำเกษตรเคมีเช่นเดิม

ส่วนเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์มากกว่า 3 ปี หรือได้ใบรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ผลผลิตจะค่อยๆ สูงขึ้นตามคุณภาพของดินและปริมาณน้ำ รวมถึงการบำรุงดูแลรักษา แต่ยังประสบกับปัญหาเรื่องตลาดรองรับผลผลิตมีน้อย จึงส่งผลให้ราคาขายไม่แตกต่างจากราคาสินค้าเกษตรปกติ แต่เกษตรกรกลุ่มนี้ยังมุ่งมั่นทำเกษตรอินทรีย์ต่อไป ด้วยคำนึงถึงสุขภาพของตนเอง ครอบครัว และผู้บริโภค รวมทั้งคาดหวังว่าใบรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับ จะทำให้สามารถขายสินค้าเกษตรอินทรีย์ได้ในราคาสูง

จากปัญหาและความคาดหวังดังกล่าว สศท.3 จึงได้เสนอแนวทางพัฒนาเกษตรอินทรีย์ จ.หนองคาย ปี 2560-2564 ด้วย 4 แนวทาง คือ 1.เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดย ลด ละ เลิกการใช้สารเคมี รวมทั้งผลิตให้ได้มาตรฐาน GAP ในเบื้องต้น แล้วมุ่งสู่การผลิตให้ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ทั้งในประเทศและระดับสากล 2.พัฒนาการตลาด เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ โดยรวมกลุ่มผู้ผลิตและแปรรูปสินค้า จัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า หรือตลาดกลางสินค้าเกษตรอินทรีย์ระหว่างประเทศไทย-สปป.ลาว ปรับตำแหน่งทางการตลาดให้เป็นสินค้าเกษตรเกรดพรีเมียม อีกทั้งปรับปรุงส่วนผสมทางการตลาด (4P) ได้แก่ พัฒนาผลิตภัณฑ์และรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์และความเป็นอัตลักษณ์ของจังหวัด ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ปรับราคาตามต้นทุนที่แท้จริง และการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาด

3.ส่งเสริมและพัฒนาองค์กรเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร Cluster เกษตรอินทรีย์ให้มีความเข้มแข็ง มีองค์ความรู้ สามารถนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเกษตรอินทรีย์ที่เหมาะสมมาปรับใช้ได้ในฟาร์ม (Smart Farmer) รวมถึงสามารถเจรจาการค้าดังเช่นเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneur) และ 4.น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้

Leave a comment