ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/246954

ประเทศไทยตอนนี้ถือได้ว่า มีพระมหากษัตริย์ พระองค์ใหม่แล้ว หลังจากเมื่อวันอังคาร 29 พ.ย.ที่ผ่านมา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ได้เรียกประชุมวาระพิเศษ เพื่อแจ้งให้ทราบเรื่องที่ได้รับแจ้งจากครม.ให้อัญเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมารขึ้นครองราชย์ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า”กรณีที่ราชบัลลังก์ว่างลงและเป็นกรณีที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ.2467 แล้ว ให้คณะรัฐมนตรีแจ้งประธานรัฐสภาทราบ และให้ประธานรัฐสภาเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อรับทราบ จากนั้นจะให้ประธานรัฐสภาอัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์ เป็นพระมหากษัตริย์สืบไป แล้วให้ประธานรัฐสภาประกาศให้ประชาชนทราบ”
ทั้งนี้ มีการขยายความเพิ่มจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหมว่า ประธาน สนช.น่าจะเข้าเฝ้าฯ เพื่ออัญเชิญพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่วันที่ 30 พ.ย.หรือไม่ก็ 1 ธ.ค.นี้
แม้ว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช องค์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จะเสด็จสวรรคตได้ 50 วันแล้วก็ตาม ประชาชนคนไทยทั้งประเทศก็ยังคงอยู่ในอารมณ์แห่งความโศกเศร้าอาลัยอยู่มิคลาย แต่แผ่นดินไทยก็มิอาจที่จะร้างกษัตริย์อยู่นานเกินไป ถึงเวลาอันสมควรต้องเป็นไปตามกฎหมายและธรรมเนียมราชประเพณีแต่โบราณ
ซึ่งวาระแห่งการขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ ก็นับเป็นเรื่องมหามงคลของแผ่นดิน ที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์เศร้าของพสกนิกรได้ด้วย
ผมจึงขอเป็นส่วนหนึ่งของประชาชนคนไทย ร่วมน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ แห่งจักรีวงศ์ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
สำหรับเรื่องราวในแวดวงการเกษตรตอนนี้ ก็มีเรื่องดีๆที่ถือเป็นข่าวดีประเดิมเริ่มรัชกาลที่ ๑๐ ก็ว่าได้ นั่นคือ ข่าวราคาพืชเศรษฐกิจสำคัญๆของไทยตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้าว, มันสำปะหลัง, ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ต่างพากันฟื้นตัวขึ้นยกแผง พ้นจากช่วงที่เคย”ตกต่ำสุดขีด”แล้ว
โดยในส่วนของราคาข้าวเปลือก ซึ่งเมื่อต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมายังเป็นปัญหาใหญ่เพราะราคาที่ตกต่ำสุดขีดของข้าวหอมมะลิ แต่ล่าสุดนี้ ราคาที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรรายงานเป็นรายวันในตลาดสำคัญๆ ล้วนดีดตัวขึ้นเป็นลำดับ ขณะที่นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ อดีตเลขาธิการสมาคมโรงสีข้าวไทยระบุว่า ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิตอนนี้ขยับสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิความชื้นไม่เกิน 15% โรงสีรับซื้อเฉลี่ยตันละ9,500 ถึง 10,000 บาท หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยตันละ 1,500 บาทจากช่วงก่อนที่รัฐบาลจะออกโครงการจำนำยุ้งฉาง ขณะที่ทิศทางราคาช่วงเดือนธ.ค.นี้ คาดว่า จะไม่ต่ำลง เพราะเป็นปลายฤดูเก็บเกี่ยว ปริมาณข้าวออกใหม่เหลือน้อยแล้ว
ส่วนมันสำปะหลัง นางสุรีย์ ยอดประจง นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทยชี้ว่า ปัจจุบันราคาหัวมันสดเฉลี่ยทุกเปอร์เซ็นเชื้อแป้งอยู่ที่ กก.ละ 2 บาท ถือเป็นราคาที่ดีและสูงขึ้นมากจากช่วง 3-4 เดือนก่อนที่ราคาตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีเหลือแค่กก.ละ 1 บาทถึง 1.20 บาท
สำหรับยางพาราที่เคยราคาตกต่ำเป็นประวัติการณ์ช่วงหลายเดือนก่อนนี้ ล่าสุดนายหลักชัย กิตติพล นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมยางพาราไทยเผยว่า ตอนนี้ราคากลับพุ่งขึ้นมาสูงสุดในรอบ 2 ปี โดยยางแผ่นดิบชั้น 3 ทั้งราคาในท้องถิ่นและราคาประมูล ณ ตลาดกลางหลายจังหวัดขึ้นมาแตะที่ระดับกก.ละ 65 บาท เป็นครั้งแรกแล้ว
เช่นเดียวกับปาล์มน้ำมันซึ่งนางวิวรรณ บุณยประทีปรัตน์ เลขาฯสมาคมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มประเทศไทยชี้ว่า ปัจจุบันผลปาล์มทะลายได้ราคาดีเฉลี่ยอยู่ที่ระดับกก.ละ 6 บาท อันเนื่องจากผลกระทบภัยแล้งที่ผ่านมา ทำให้ปีนี้ผลผลิตค่อนข้างน้อย ยิ่งเดือนธ.ค.นี้ ผลผลิตยังน้อย แต่ความต้องการสูง
ที่ขอนำข่าวดีๆ ของราคาพืชผลการเกษตรซึ่งเริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด มาเขียนถึงในคอลัมน์นี้ ก็เพื่อเป็นการเริ่มต้นรัชกาลใหม่ด้วยนิมิตหมายอันดี ด้วยความหวังว่า ชีวิตของเกษตรกรไทยตลอดรัชสมัยของพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ จะได้อยู่ดีมีความสุขต่อไปด้วยเทอญ
สาโรช บุญแสง