ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/247074
นายคมสัน จำรูญพงษ์ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 จ.ชัยนาท (สศท.7) ได้ทำการศึกษาปริมาณการใช้น้ำ (Water Footprint) จากการปลูกข้าวในพื้นที่ส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ จ.ลพบุรี เพื่อจัดทำบัญชีรายการการใช้น้ำ ศึกษาปริมาณการใช้น้ำ ประเมินมูลค่าน้ำทางเศรษฐกิจ และเปรียบเทียบผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ จากการผลิตของข้าวในพื้นที่ส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ จ.ลพบุรี โดยรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เกษตรกรผู้ปลูกข้าวพันธุ์ กข โดยวิธีหว่านน้ำตม ปีเพาะปลูก 2558/59 ที่เป็นสมาชิกในพื้นที่โครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ตำบลสนามแจง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี จำนวน 51 ราย
ผลการศึกษาพบว่า ปริมาณการใช้น้ำ(Water Footprint) ของข้าวพันธุ์ กข สำหรับการผลิตข้าวเปลือก 1 ไร่ ใช้น้ำ 1,075.08 ลูกบาศก์เมตร แบ่งเป็นปริมาณน้ำฝน (Green Water Footprint) 493.90 ลูกบาศก์เมตร น้ำชลประทาน (Blue Water Footprint) 581.18 ลูกบาศก์เมตร ต้นทุนการผลิตข้าวเฉลี่ย 4,104.34 บาท/ไร่ผลตอบแทนสุทธิต่อไร่ 1,935.93 บาท ต้นทุนการผลิตข้าวเมื่อรวมต้นทุนค่าน้ำเฉลี่ย 4,394.93 บาท/ไร่ผลตอบแทนสุทธิต่อไร่ 1,645.34 บาท โดยปริมาณน้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร สามารถสร้างรายได้จากการปลูกข้าว 5.62 บาท
ทั้งนี้ เพื่อให้การใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ภาครัฐควรกำหนดมาตรการด้านการเกษตร นอกจากการสนับสนุนความรู้และปัจจัยการผลิตแล้ว ควรพิจารณาจัดหาแหล่งน้ำให้เกษตรกรควบคู่ไปด้วย และสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญของการใช้น้ำ และเกษตรกรควรเลือกพันธุ์ให้เหมาะสม นำเทคโนโลยี หรือแนวคิดใหม่ๆมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ซึ่งผลการศึกษาวิจัยดังกล่าว จะเป็นข้อมูลนำไปจัดทำแนวทางบริหารจัดการน้ำและส่งเสริมการปลูกพืช นำไปสู่การใช้ทรัพยากรการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายและการหาแนวทางมาตรการจูงใจการปลูกพืชได้ต่อไป