ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/247072

ถือเป็นการต่อลมหายใจให้กับรัฐบาลและกระทรวงพลังงานไปโดยปริยาย สำหรับการประกาศหยุดกิจกรรมการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ยุติโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเอาไว้ชั่วคราวของ “เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน” เพื่อร่วมกับประชาชนคนไทยทั้งประเทศถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ ภายหลังจากประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ “พรเพชร วิชิตชลชัย” ได้แจ้งประกาศนำความกราบบังคมทูลอัญเชิญ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ของปวงชนชาวไทย
เพราะฉะนั้นประเด็น “โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่” จะได้เกิดหรือไม่ ก็ยังคงเป็นหนังเรื่องยาวที่ต้องติดตามรอดูกันต่อไป ซึ่งกว่าจะได้ดูภาคใหม่กันอีกทีก็คงต้องรอหลังจาก “โพลล์” ที่“บิ๊กโย่ง” พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์รมว.พลังงาน สั่งให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปสำรวจความคิดเห็นของคนในพื้นที่ก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่อีกครั้งว่า มีความต้องการที่แท้จริงอย่างไร
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากเตือนไปถึงรัฐบาลและกระทรวงพลังงานในฐานะผู้กำกับนโยบาย เกี่ยวกับการทำโพลล์ที่ พล.อ.อนันตพร สั่งให้ไปทำนั้น ถ้าอ่านตามคำให้สัมภาษณ์ของ รมว.พลังงาน ก็คงไม่แคล้วว่าหน่วยงานที่รับไปทำต้องเป็น “การไฟฟ้าฝ่ายผลิต” ในฐานะต้นเรื่องหรือเจ้าของโครงการ
ถ้าเป็นแบบนี้ ก็น่ากลัวว่า หากสุดท้ายผลโพลล์ออกมาสรุปว่า ชาวบ้านสนับสนุนให้สร้างโรงไฟฟ้า แล้วจะได้รับการยอมรับจริงหรือไม่
ที่พูดไม่ได้ต้องการแสดงความ “ดูถูก” หรือไม่มั่นใจ กฟผ. ถึง “ความเป็นกลาง”
แต่ที่จำเป็นต้องพูด เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า สถานะของ กฟผ. ในสายตาชาวบ้านเวลานี้ ไม่ต่างจากการเป็น“ผู้มีส่วนได้เสีย” จากโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ดังนั้นการให้ กฟผ. ไปทำโพลล์สำรวจความเห็นของชาวบ้านก็เจ๊งสิครับ ใครจะเชื่อถือ
มันก็เหมือนที่ผมถามนั่นแหละว่า หากสุดท้ายผลโพลล์ออกมาสรุปว่า ชาวบ้านสนับสนุนให้สร้างโรงไฟฟ้า แล้วจะได้รับการยอมรับจริงหรือไม่ และทำให้การคัดค้านจบลงได้หรือไม่
ผมว่าไม่นะ
เพราะเรื่องลักษณะนี้ใช่ว่าจะไม่มีบทเรียน ก่อนหน้านี้ กฟผ. เองก็เคยอ้างว่าล่ารายชื่อชาวบ้านที่สนับสนุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้ามาได้ 1.5 หมื่นรายชื่อ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มที่คัดค้านอยู่ดีแถมยังต้องโดนถล่มตามมาอีกว่ามีการเล่นเกม “ใต้ดิน” เพื่อให้ได้รายชื่อเหล่านั้นมา
ดังนั้นถ้ายังขืนให้ กฟผ. เป็นผู้ทำโพลล์สำรวจความคิดเห็น สุดท้ายก็คงไม่แคล้วลงเอยแบบเดิม นั่นคือ ไม่ได้รับการยอมรับ
ผมเห็นด้วยนะครับกับการสอบถามความคิดเห็นของคนในพื้นที่ แต่ก็ต้องดำเนินการโดยหน่วยงานที่มีความเป็นกลางและได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย
ที่สำคัญกระบวนการสำรวจจะต้องตรงตามหลักวิชาการ มีการออกแบบคำถามที่ครอบคลุมผู้มีส่วนได้เสียและมิติปัญหาได้ทั้งหมด รวมทั้งดำเนินการด้วยวิธีการที่โปร่งใสเป็นที่ยอมรับ
ถ้าจะทำก็ต้องทำแบบนี้ครับ
ถ้าทำไม่ได้ ก็อย่าทำมันเลย ผลาญเงิน ผลาญทองกันไปเปล่าๆ
มะลิลา