Star Retro : ‘ป้าแมว-รุ่งกานดา’ นางร้ายในตำนาน ผู้เกิดมาฆ่า! พจมานและดาวพระศุกร์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/251514

วันอาทิตย์ ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

ถ้าพูดถึงนักแสดงนางร้าย ผู้ที่เป็นแรงส่งให้เหล่านางเอกได้รับคะแนนสงสารจากผู้ชม เชื่อว่าหนึ่งในนั้นต้องมี “ป้าแมว-รุ่งกานดา  เบญจมาภรณ์” หรือที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีกับ “ป้าแมว ดาวพระศุกร์” เริ่มต้นศักราชใหม่ต้อนรับปีไก่ “สตาร์เรโทร” ขอนำทุกท่านร่วมย้อนวันวานความประทับใจไปกับนางร้ายรุ่นใหญ่ท่านนี้กันค่ะ

สุขภาพตอนนี้ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ เป็นโรคหอบหืด แล้วก็เป็นนิ่วในถุงน้ำดี หัวเข่าไม่ค่อยดีมีความดันสูงไขมันในเส้นเลือดสูง เช้ามาก็จะต้องกินยาแก้โรคความดันสูงแล้วค่ะ 1 เม็ด ทานยาตามที่หมอสั่งค่ะอยู่คนเดียวกับแมวหนึ่งตัว ถามว่าเหงาไหม ป้าแมวไม่รู้จักคำว่าเหงาค่ะ เคยมีคนเขาบอกว่าอายุเท่านั้นเท่านี้จะเป็นวัยทองป้าแมวก็ไปถามหมอว่าวัยทองเป็นยังไงป้าแมวเป็นไหม หมอก็บอกว่าคนอย่างป้าแมวไม่มีทางเป็นวัยทองหรอกร่าเริงออกอย่างนี้ (หัวเราะ)

งานแสดงที่ยังคงต่อเนื่อง

ตอนนี้มีละครเรื่อง อังกอร์ และ เส้นสนกลรักทางช่อง 3 และป่ากามเทพ ทาง GMM25 งานละครก็ยังมีบ้างค่ะยังไม่หมดซะทีเดียว คือถามว่าตอนนี้งานน้อยลงไม่เหมือนสมัยก่อนที่มีติดๆ กัน แต่พองานลดลงมาเราก็แย่เหมือนกันค่าใช้จ่ายเราเยอะ ส่วนงานพากย์ละครวิทยุก็ยังคงทำอยู่ ซึ่งสามารถหาฟังได้ทางยูทูบ แล้วก็ทางวิทยุชุมชน ยังมีพากย์ละครวิทยุเรื่อยๆ เพราะว่าเป็นอีกงานที่เรารักเหมือนกัน หลักๆ ป้าแมวจะพากย์เป็นตัวร้ายค่ะ ก็ใช้เสียงปกติของเรานี่แหละ งานพากย์นี้ทำมานานแล้วตั้งแต่เป็นเด็กเลยค่ะ ทำงานตรงนี้ก่อนจะมาแสดงภาพยนตร์และละครทีวี.อีก

จุดแรกเริ่มสู่วงการละครวิทยุ

คือสมัยก่อน คุณเอิบ กันตถาวร เป็นเจ้าของคณะกันตถาวร ได้ชักชวนให้มาพากย์ละครวิทยุ ซึ่งเราก็สนใจทันทีเลยเพราะว่าชอบมาก แล้วก็ไม่ต้องไป
เรียนสามารถทำตรงนั้นได้เลย เริ่มต้นพากย์ก็เป็นตัวร้ายเลยค่ะ แล้วก็ได้ร่วมงานกับคณะพากย์ต่างๆอีกมากมาย เคยจะได้พากย์เสียงนางเอกตอนที่อยู่คณะกันตนา แต่ป้าแมวไม่เอาไม่ชอบร้องไห้ ชอบเล่นเป็นตัวร้ายมากกว่ารู้สึกว่ามันได้อารมณ์กว่า และละครเรื่องนึงเราจะสามารถพากย์ได้หลายตัว เป็นเด็กเล็ก เด็กโตหน่อย แล้วก็ตัวร้าย ซึ่งเราก็จะต้องหาวิธีในการจับน้ำเสียงและจำเสียงของเราให้ได้ ลักษณะก็เหมือนกับการพากย์หนังนี่แหละค่ะ แต่ว่าของเราจะพากย์แต่ละครวิทยุ เคยไปพากย์หนังบ้างแต่ว่าน้อยค่ะ ละครวิทยุก็ยังมีอยู่บ้างประปราย แต่ว่าสมัยก่อนจะมีตลอด ป้าแมวก็พากย์มาตลอด บางครั้งถ้ามีงานทีวี.ก็จะหยุดแต่ก็ไม่เลิกทำค่ะเพราะว่าเราอยากที่จะอนุรักษ์ไว้กลัวมันจะหายไปจากโลกนี้เหมือนกัน

จุดเริ่มต้นของการเป็นนักแสดง

เริ่มจากการที่เข้ามาทำงานที่ บริษัท ดาราวิดีโอ ก่อนค่ะ มาพิมพ์บทละคร คือคนเขียนบทละครเขาจะเขียนเป็นลายมือมา เราก็นำมาพิมพ์ พิมพ์ตั้งแต่ยังเป็นเครื่องพิมพ์ดีดจนเป็นคอมพิวเตอร์ ไม่ได้เป็นพนักงานประจำแต่ว่ารับจ้างค่ะ ซึ่งก็ทำนานเหมือนกันนะสิบกว่าปีเกือบยี่สิบปี แล้วสักพักก็ได้เล่นละครเรื่องบ้านทรายทอง คือระหว่างที่เป็นนักแสดงก็ยังรับจ้างพิมพ์บทอยู่ไม่ได้เลิกอาชีพนี้ อย่างเช่นเล่นเรื่องบ้านทรายทอง ก็เอาเรื่องทองเนื้อเก้าไปพิมพ์ จะพิมพ์ทุกเรื่องที่เป็นของดาราวิดีโอ ป้าแมวเล่นบ้านทรายทองเวอร์ชั่น “ตุ๋ย-มนฤดี” กับ “ตั้ว-ศรัณยู” เป็นละครเรื่องแรกที่เล่นกับช่อง 7 ก่อนหน้านี้เคยเล่นที่อื่นบ้างนิดๆ หน่อยๆ แต่ว่าเรื่องที่ถือเป็นการแจ้งเกิดเลยก็คือบ้านทรายทอง ซึ่งรับบทเป็นสายใจ เป็นแม่บ้านที่ใจร้าย เป็นตัวที่คอยตามสอดแนมเรื่องราวในบ้านแล้วไปรายงานให้หม่อมทราบ แล้วต่อมาช่อง 3 ทำเรื่องบ้านทรายทอง ป้าแมวก็ได้ไปเล่นเป็นตัวละครตัวเดิมอีกค่ะ คือทางนั้นเจาะจงมาเลยว่าต้องเป็นตัวป้าแมวที่เล่น ซึ่งพอละครออกมาก็เปรี้ยงทั้ง 2 เวอร์ชั่นเลยกับบทนี้ ไปไหนมาไหนคนก็ด่า แต่สำหรับตัวเองนั้นถือเป็นความสำเร็จค่ะ เราชอบที่คนดูเขาด่าที่เขาว่าเราจะรู้สึกมีความสุข เป็นโรคจิตค่ะ (หัวเราะ)

ตอกย้ำความร้ายอีกครั้งใน “ดาวพระศุกร์”

ละครเรื่องที่ 2 ที่เล่นคือสกาวเดือน ซึ่งได้เล่นเป็นอาของนางเอก เป็นลูกทูตซึ่งดุมากก็คอยชำระความให้กับมนฤดี จำได้ว่า 6 หน้ากระดาษพูดคนเดียว พอเรื่องที่ 3 ก็มาเล่นเรื่องดาวพระศุกร์ ซึ่งจริงๆ ตัวที่ป้าแมวเล่นไม่มีในบท แต่เขาใส่เข้าไปก็เลยใช้ชื่อว่าแมว คนก็เลยเรียกเราว่า “แมว ดาวพระศุกร์” ไปเลยจากการที่เขาเขียนบทนี้เข้ามาเพื่อให้เป็นสีสัน ตอนที่เล่นคือบทร้ายมากแล้วกระแสคนชมเรตติ้งและเสียงคนด่าเยอะมากๆ มากมายที่สุดของมากเลย ถึงปัจจุบันนี้ทุกคนก็ยังรู้จักแมว ดาวพระศุกร์อยู่ ไปไหนก็แล้วแต่ แม้แต่ไปทานอาหารนะคะทุกคนก็จะเรียกว่าป้าแมวจะทานอะไร ดาวพระศุกร์เหมือนเป็นการทำให้เราได้เปลี่ยนนามสกุลไปเลย (หัวเราะ) ก็ปลื้มใจมากค่ะกับงานชิ้นนี้ กับผลงานที่ผ่านมาป้าแมวประทับใจทุกเรื่องนะคะ เพราะว่าเราเล่นด้วยความสามารถของเราเต็มที่ทุกเรื่อง จ้างร้อยเล่นพัน แต่ถามว่าคนที่พูดถึงละเกลียดเรามากๆ ก็คือจากเรื่องดาวพระศุกร์คนจะอินมาก เพราะว่าเราก็จิกดาวพระศุกร์เหลือเกิน

ชีวิตคือละคร

การแสดงตอนที่ไปเล่นเราก็เล่นได้เลยไม่มีความเคอะเขิน ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรือจะเพราะว่าเป็นพรสวรรค์ คือเล่นได้ 5-4-3-2 เล่นเลย ไม่ได้มีใครในครอบครัวที่เป็นนักแสดงนะคะ คือมันเป็นความชอบส่วนตัวตั้งแต่เด็ก ไม่เคยเรียนการแสดงด้วย แล้วเราก็เคยได้รับคำชมจาก “พี่ศิรินทิพย์ ศิริวรรณ” ว่าเราได้ตัวร้ายขึ้นมาอีกหนึ่งตัวแล้ว นี่คือคำชม เขาไม่เชื่อว่าเราไม่เคยเล่นละครมาก่อน แต่ทำไมเล่นเยอะเล่นใหญ่ขนาดนี้ คือเป็นคนที่ไม่ได้เรียกว่าหลงตัวเองนะเป็นคนที่ว่าเขาจ้างร้อยก็อาจจะเล่นสักหมื่นค่ะ เราทุ่มชีวิตจิตใจเข้าไปตรงนั้นด้วย ชีวิตคนเรามันเหมือนละคร เพราะว่าเขาก็เอาชีวิตคนเรานี่แหละไปทำละครอย่างชีวิตป้าแมวเนี่ยมันเป็นละครอะไรนักหนาก็ไม่รู้ที่เห็นเรายิ้มแย้มแจ่มใสแต่ว่าบางครั้งเราก็ต้องแอบไปร้องไห้คนเดียว ชีวิตป้าแมวยิ่งกว่าละครก็ว่าได้ เพราะว่าละครเขายังมีแฮปปี้เอนดิ้งบ้าง แต่เรายังไม่เห็นเอนดิ้งอะไรเลย (หัวเราะ)

เกิดมาเพื่อฆ่านางเอก

จะเป็นตัวร้ายที่กลั่นแกล้งนางเอก จริงๆ ก็เคยเล่นเป็นคนดีนะคะ คือสมัยก่อน “คุณหลุยส์-สยาม” เคยถามว่าพี่แมวเคยเล่นเป็นคนดีไหม ก็บอกว่าเคยค่ะ อย่างเช่นฟ้ามีตาเราก็เล่นนะ แล้วเขาก็ถามว่าคนชอบไหม เราก็ตอบว่างั้นๆ แหละค่ะ คุณหลุยส์ก็เลยบอกว่างั้นก็โอเคเหมือนกันแต่ยังไงเขาก็ชอบให้เราเล่นเป็นตัวร้ายมากกว่า ป้าแมวเคยได้รับคำชมว่า “เธอร้ายได้อร่อยมาก” ประชาชนตั้งให้ค่ะ คือเวลาดูป้าแมวเล่นละครแล้วมันอร่อยจริงๆ มันมีเปรี้ยวหวานมันเค็มอยู่ในตัว ของนักข่าวก็มีค่ะเขาบอกว่า “เธอร้ายมาแต่กำเนิด” ถ้าเล่นเป็นคนดีจะไม่กลมกล่อมมันจะจืดชืดแล้วเวลาเล่นเป็นคนดีเราก็แอบแถมเหมือนกัน คือทนไม่ได้ก็แอบใส่นิดๆ บทร้ายเรียกว่ามันเหมือนอยู่ในสายเลือดทางการแสดงเราไปแล้ว อยากจะเล่นอยากจะใส่ไปนิดนึง บทดีจริงๆ ก็มีเข้ามาเหมือนกัน แต่ว่าถ้าจะให้เลือกชอบบทร้ายมากกว่าเพราะว่ามันเล่นได้ถึงพริกถึงขิงมากกว่า อย่างบทดีล่าสุดก็เล่นเรื่องโนห์ราซึ่งได้รับคำชมว่าเล่นดีมากเล่นให้คนร้องไห้ตามได้ ละครพีเรียดละครปัจจุบันก็เล่นมาหมดแล้ว อย่างเรื่องนางทาส เวอร์ชั่น “กบ-สุวนันท์” ออกมาไม่กี่ตอนเองนะคะแต่ว่าคนชอบมาก คือเราใช้เท้าไกวเปลลูกของคุณหญิง แล้วก็ไปขโมยของเขา เรียกว่าถ้าป้าแมวได้รับบทบาทไหนก็จะต้องมีอะไรที่คนดูจดจำและประทับใจอย่างแน่นอน

ยังคงรักษามาตรฐานตัวเอง

เราต้องซื่อสัตย์ต่ออาชีพ ตรงต่อเวลา และอดออมเก็บหอมรอมริบ อย่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย อย่าทำตัวเหมือนป้าแมวในสมัยก่อน เมื่อก่อนสุรุ่ยสุร่ายมากและจะต้องทำการบ้านมาเยอะๆ อย่าทำให้เพื่อนร่วมงานเบื่อหน่าย เพราะว่าการทำงานบางครั้งก่อนที่จะวางตัวนักแสดงเขาก็ต้องถามผู้กำกับ ถามเพื่อนร่วมงานว่าคนนั้นคนนี้เป็นยังไงบ้าง ได้บทไหมติดบทไหมมาสายไหม งอแงหรือเปล่า ถ้าทุกคนบอกว่าสบายมากผ่านฉลุย แต่ถ้าบอกไม่ไหวเลยไม่น่ารักก็จบ คือเราจะต้องน่ารักกับทุกคน แม้ว่าเราจะไม่ไหวแม้ว่าเราจะไม่สบายยังต้องขออนุญาตหมอขอถอดสายน้ำเกลือมาเล่นละครนะคะ หลังจากเข้าฉากเสร็จจะไม่ไหวยังไงก็ค่อยว่ากัน

เคยถูกมองว่าหยิ่ง

เคยมีค่ะ ซึ่งถ้าป้าแมวหยิ่งนี่ก็ใช้ไม่ได้แล้วนะ ป้าแมวคุยได้แม้กระทั่งขอทานไปถามสารทุกข์สุขดิบเขาถามไปหมดเลยค่ะอยากรู้อยากเห็น ถ้าคนมองว่าเราหยิ่งก็จะรู้สึกเสียใจเหมือนกันนะว่าเราไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจตอนไหนหรือเปล่า นึกถึงสมัยตอนที่เราเป็นนักแสดงใหม่ๆ ทานก๋วยเตี๋ยวข้างถนน มีคนเข้ามาถามว่าป้าแมวทานได้เหรอคะ เราก็ตกใจนึกว่าร้านนี้มันสกปรกหรือไงเราถึงกินไม่ได้ เขาบอกว่าก็เป็นดาราทำไมมากินร้านข้างถนนแบบนี้ เราก็บอกว่ากินได้หมดนั่งกับพื้นก็ได้ ข้างถนนก็ได้เราก็คนเหมือนกันไม่ได้พิเศษมาจากไหน เราอย่าไปคิดว่าเราเป็นใครเราก็เป็นแมวนี่แหละเวลาทำงานอาจจะเป็นคุณหญิงแมวคุณนายแมว แต่จริงๆ แล้วก็คือแมวนี่แหละ ทุกวันนี้ก็กลายเป็นป้าแมว และมีคำว่าคุณแม่แมวแล้วด้วยค่ะก็เป็นไปตามวัยและแล้วแต่เขาจะเรียก แล้วเด็กรุ่นใหม่นะคะ ดารารุ่นเก่าๆ บางคนเขาจะบอกว่าใครเหรอไม่รู้จัก แต่สำหรับป้าแมวดาราใหม่ๆ รู้จักเราทุกคนก็ขอบคุณเขามากๆ ที่รู้จักป้าแมว บางคนสวัสดีค่ะป้าแมว เราก็งงเธอเป็นใครบางทีนางเอกมาไหว้เราก็ไปกระซิบถามคนอื่นว่าใครเหรอ เราก็เลยรู้สึกภูมิใจที่เด็กใหม่ๆ ยังรู้จักเรา แล้วเขาก็จะบอกกันว่าป้าแมวมีกิตติศัพท์ ดุ ทุกคนที่เข้ามายกมือไหว้นี่แทบจะกราบเลยค่ะ แต่สักพักสิคะเราเหมือนลูกไล่เขาเลยค่ะ เพราะว่าเราจะเป็นกันเองเฮฮาโจ๊กเลยค่ะ ที่เขาคิดว่าเราดุอาจจะเป็นเพราะบทบาททางการแสดงที่เราได้รับมากกว่า

วงการนี้มีขึ้นมีลง

เราก็ยอมรับได้ค่ะ แต่บางครั้งก็นึกน้อยใจนิดว่าทำไมมันเป็นอย่างนี้ น้อยใจโชคชะตาเหมือนกันณ ปัจจุบันนี้ป้าแมวอยู่คนเดียวค่ะ อยู่บ้านเอื้ออาทรอยู่กับแมวตัวนึง (หลายคนสงสัยว่าทำไมมาอยู่คนเดียว?)เราไม่มีครอบครัวเราไม่ได้แต่งงาน ถามว่าอยากมีใครไหมก็อยากนะคะ แต่ว่าเราไม่มีเวลาใครเขาจะชอบล่ะสมัยก่อนมีคนมาจีบแต่เขาไม่เชื่อว่าเราจะมีใจให้เขาคิดว่าเราเล่นละครอยู่ เพราะว่าเราเป็นนักแสดงก็เลยไม่ได้กันในชีวิตจริงเคยมีแฟนค่ะ ถึงขนาดจะหมั้นหมายกันแต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ก็เลยอยู่คนเดียวแบบนี้ดีกว่า สบายๆ ไปไหนก็ได้ไม่ต้องมีใครมาคอยเป็นห่วงเป็นใยวัย 74 แล้วไม่มีคนดูแลเราก็ดูแลตัวเอง เราจะรู้ตัวว่าเราไหวไหมถ้าไม่ไหวก็ไปหาหมอ ก็จะยังคงเล่นละครต่อไปเรื่อยๆ ถ้ายังมีผู้จัดเมตตาอยู่นะคะก็ยังเล่นต่อไปจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ตอนนี้ยังไหวอยู่ บทเปรี๊ยะไม่มีขาดตกบกพร่อง และไม่เป็นที่หนักใจของผู้กำกับและผู้ร่วมงานอย่างแน่นอน ล่าสุดเพิ่งได้รับรางวัลครูของแผ่นดิน และรางวัลเกียรติยศกิตติมศักดิ์ อีกรางวัลคือรางวัลนาคราชค่ะ บทจะได้ก็ได้ก็ได้เยอะเลยค่ะอายุ 74 แล้วเพิ่งจะได้รางวัล ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจสำหรับป้าแมวมากๆ

นอกจากเป็นนักแสดงแล้วก็ยังมีอาชีพเสริมนิดหน่อยค่ะ เมื่อก่อนจะมีร้านขายขนม แต่แล้วมันก็ไม่ไหวก็หยุดไป แล้วทีนี้ก็มีน้องที่เขามาทำเพจไว้ให้เราก็เลยอาศัยว่าขายทางเพจ ก็จะขายพวกขนม กาแฟอาหารเสริมบ้าง เล็กน้อยเป็นรายได้เสริม เก็บไว้กินบ้างแล้วก็แบ่งทำบุญบ้าง ปันให้เพื่อนฝูงบ้าง แล้วก็รับดูหมอด้วยค่ะ ป้าแมวสนใจเรื่องการดูดวงมาตั้งแต่เด็กๆ และเป็นคนที่มีเซ้นส์ด้วยค่ะ ป้าแมวไม่เลือกงานหรอกค่ะอะไรก็ได้ที่เราพอทำได้เราก็ทำหมด แต่พูดจริงๆ เลยนะคะคือตอนนี้อยากมีร้านขายขนม ชอบเป็นแม่ค้าเพราะว่าสนุกคือถ้าขายดีๆ นะมันปลื้มใจมากเลย

กุหลาบสีเงิน

Leave a comment