นายจัมเมห์กล่าวผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ว่า “พฤติกกรรมดื้อแพ่งใดๆ ต่อกฎหมายแห่งแกมเบีย, การปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง และพฤติกรรมตั้งใจสร้างความไม่สงบในสังคมและสันติสุข จะถูกห้ามกระทำภายใต้กฎสถานการณ์ฉุกเฉิน” เขาเสริมด้วยว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้รับคำสั่งให้รักษาความสงบ, กฎหมาย และสันติภาพอย่างเต็มที่ และประณามต่างชาติที่เข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้ง

การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินของนายจัมเมห์ เกิดขึ้นหลังจากประเทศไนจีเรียส่งเรือรบประชิดเข้าใกล้ประเทศแกมเบียเพื่อกฎดันให้นายจัมเมห์ยอมรับผลการเลือกตั้ง ขณะที่กลุ่มประชาคมเศรษฐกิจแห่งรัฐแอฟริกาตะวันตก หรือ ‘อีโควาส’ (ECOWAS) เตรียมกองกำลังเอาไว้แล้ว แต่ยืนยันว่าการใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงจะเป็นทางเลือกสุดท้าย

ทั้งนี้ นายบาร์โรว์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีแกมเบียเมื่อเดือนธ.ค.โดยได้คะแนน 43.3% ส่วนนายจัมเมห์ได้ 39.6% ซึ่งในช่วงแรกนายจัมเมห์ยอมรับผลที่ออกมา แต่ภายหลังกลับออกมาเรียกร้องให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ เนื่องจากคณะกรรมการเลือกตั้งยอมรับว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง แต่ไม่กระทบผลลัพธ์สุดท้าย ขณะที่ศาลสูงสุดแกมเบียระบุว่า พวกเขายังไม่สามารถพิจารณ์คำขอของนายจัมเมห์ได้จนกว่าจะถึงเดือนพ.ค. ทำให้เขาระบุว่า จะมันลงจากอำนาจจนกว่าจะถึงเวลานั้น