อัยการเกาหลีใต้กำลังสืบสวนว่า การที่ ซัมซุง มอบเงินบริจาคจำนวน 3 หมื่นล้านวอนให้ธุรกิจหรือมูลนิธิที่นางชเว ให้การสนับสนุน เป็นการกระทำเพื่อแลกกับการสนับสนุนจากกองทุนเงินบำนาญแห่งชาติ ในการผสานบริษัทในเครือของซัมซุงเมื่อปั 2015 หรือไม่ ซึ่งนายอีเคยปฏิเสธเรื่องนี้ไปแล้วในการให้ปากคำต่อคณะกรรมการของรัฐสภาเกาหลีใต้เมื่อเดือนธ.ค.ปีก่อน

เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา นายอีถูกเชิญตัวไปสอบปากคำที่สำนักงานอัยการพิเศษในกรุงโซล โดยเจ้าหน้าที่ถามคำถามนายอีนานถึง 22 ชั่วโมง ก่อนจะได้เดินทางกลับในเช้าวันต่อมา

ก่อนหน้านี้ ทีมอัยการพิเศษระบุว่าพวกเขาจะตัดสินใจในวันอาทิตย์ที่15 มกราคมว่า จะออกหมายจับตัวนายอี แจ-ยอง หรือไม่ อย่างไรก็ตามในวันอาทิตย์ นาย อี คิว-ชุล โฆษกของสำนักงานอัยการเกาหลีใต้ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า พวกเขาเลือกไปตัดสินใจในวันจันทร์ที่ 16 มกราคม โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังพิจารณาปัจจัยทุกอย่างอย่างรอบคอบ รวมทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากการจับกุมตัวนายอี

ทั้งนี้ การพิจารณาด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจย่อมเป็นประโยชน์ต่อตัวนายอี แจ-ยอง เช่นอาจได้โทษเบาลงในกรณีที่ถูกพบว่ามีความผิด เพื่อหลีกเลี่ยงผลทางลบต่อเศรษฐกิจในเกาหลีใต้ ซึ่งเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ชง’ข้ามปี ทายาทซัมซุงระทึก จะโดนขอออกหมายจับหรือไม่ หลังถูกสอบเครียด

ทายาท ‘ซัมซุง’ โดนเรียกสอบ ต้องสงสัยติดสินบน เอี่ยวคดีฉาวผู้นำโสมขาว