ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 16 ม.ค. 2560 05:45
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/836657

หญิงผู้เสียชีวิต มีอายุอยู่ในช่วง 70 ปี อาศัยอยู่ในเขต วอชู เคาน์ตี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองเรโนตั้งแต่ช่วงกลางเดือนส.ค. 2016 ก่อนจะพบว่าเธอติดเชื้อแบคทีเรียกลุ่ม ‘เอ็นเทอโรแบคทีเรียซีอี’ ที่ดื้อยาคาร์บาเดเนม (carbapenem-resistant enterobacteriaceae: CRE) โดยยาคาร์บาเดเนมเป็นยาปฏิชีวนะสำคัญ ที่จะถูกนำมาใช้เมื่อยาชนิดอื่นๆ ใช้ไม่ได้ผลแล้ว
ในกรณีของหญิงรายนี้ เธอติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ ‘เคลบเซลลา นิวโมเนีย’ (klebsiella pneumoniae) ที่ทำให้เกิดโรคปอดอักเสบ โดยผลการตรวจพบว่ามันดื้อยาปฏิชีวนะทั้ง 14 ชนิดที่โรงพยาบาลที่เธอเข้ารับการรักษามี และผลการตรวจสอบเพิ่มเติมโดยศูนย์ควบคุมและการป้องกันโรค (ซีดีซี) สหรัฐฯ พบว่า ไม่มียาปฏิชีวนะตัวได้ในสหรัฐฯ ที่ใช้กับเชื้อตัวนี้ได้ผล
เรื่องนี้ทำให้ดร.อเล็กซานเดอร์ คอลเลน เจ้าหน้าที่จากแผนกส่งเสริมคุณภาพการดูแลสุขภาพ แห่งซีดีซี ออกมายอมรับว่า ผู้คนในแวดวงนี้จิตตกทุกครั้งเมื่อเผชิญหน้ากับซุปเปอร์บักแบบนี้ “ผมคิดว่ามันน่ากังวล เราพึ่งพายาปฏิชีวนะที่ใหม่ขึ้นเรื่อยๆ มาจนถึงตอนนี้ แต่เป็นที่ชัดเจนว่า แบคทีเรียพัฒนาการต้านทานได้ไวกว่าที่เราจะสามารถผลิตยาตัวใหม่ๆ”
ทั้งนี้ นี่เป็นใช่กรณีแรกที่พบผู้ป่วยในสหรัฐฯ ติดเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะหลายชนิดในสหรัฐฯ ซึ่ง ณ จุดนี้ยังถือว่าเป็นกรณีที่พบไม่บ่อย แต่ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณเตือนภัย “ผมคิดว่านี่เป็นลางบอกเหตุถึงอนาคตอันเลวร้ายที่กำลังจะมา” ดร.เจมส์ จอห์นสัน ศาสตราจารย์ภาควิชาโรงติดต่อ จากมหาวิทยาลัยมินนิโซตากล่าว ขณะที่นักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ระบุว่า นี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บอกว่า นักวิจัยและรัฐบาลต่างๆ จำเป็นต้องจริงจังกับปัญหาเชื้อดื้อยา