ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/251740

วันจันทร์ ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2560, 16.17 น.

9 ม.ค.60 นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้เร่งระบายน้ำลงทะเลให้มากที่สุด เพื่อช่วยแก้ไขความเดือดร้อนพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.นครศรีธรรมราช คาดว่าในเขตตัวเมือง จะสามารถสูบน้ำได้แห้งหมดภายในเช้าวันพรุ่งนี้ (10 ม.ค.) ถ้าไม่มีฝนมาเติมอีก ขณะนี้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในเทศบาล 21 เครื่อง พร้อมเครื่องผลักดันน้ำ 16 เครื่อง

สำหรับในส่วนพื้นที่ลุ่มต่ำ อ.ชะอวด อ.หัวไทร ต้องใช้เวลาระบายออกประมาณ 1 สัปดาห์ และพื้นที่ลุ่มต่ำปลายแม่น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง กำลังทยอยผลักดันออกทะเล ตั้งเครื่องสูบน้ำ 40 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 100 เครื่อง เร่งระบายผ่านประตูน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สามารถช่วยได้มาก ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายได้เร็วขึ้น

“กำลังเร่งผลักดันน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำออกสู่แม่น้ำปากพนัง และออกทะเลผ่านอ่าวปากพนัง โดยอีกทางคลองชะอวด – แพรกเมือง ออกอ่าวไทย ทำให้การระบายน้ำเร็วขึ้นทำให้บางแห่งน้ำทรงตัวและเริ่มลดลง ซึ่งพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังใช้เวลาระบายออก ประมาณ 7 วัน ซึ่งสูบออกแค่ไหนต้องหารือชาวบ้าน จะต้องเก็บน้ำนอนคลองไว้ใช้ช่วงฤดูแล้งด้วยในพื้นที่ 8 แสนไร่ มีทั้งคลองธรรมชาติ และคลองชลประทาน ขณะนี้ยังเปิดบานประตูน้ำ อีกสักพักต้องปิดประตูเพื่อเก็บน้ำจืดไว้ใช้ รวมทั้งแนวฝนขึ้นตอนนี้เคลื่อนขึ้นไป จ.ชุมพร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม จ.พัทลุง น้ำลงเกือบหมดแล้ว ไม่มีผลกระทบกับพื้นที่เศรษฐกิจ และน้ำส่วนหนึ่งลงทะเลสาบสงขลา” นายสัญชัย กล่าว

อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ทั้งนี้ ยังมีมวลน้ำจาก จ.นครศรีธรรมราช อ.ทุ่งสง ส่วนหนึ่งไหลมา จ.ตรัง และอีกส่วนไหลจาก อ.พิปูน ไป จ.สุราษฐ์ธานี แต่ระดับน้ำในแม่น้ำตาปี ยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่ โดยมวลน้ำนี้จะถึง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี วันที่ 11 – 12 ม.ค.ซึ่งกรมชลประทานได้เฝ้าระวังแจ้งเตือนหน่วยงานในพื้นที่คาดว่าพื้นที่เศรษฐกิจไม่มีผลกระทบ เพราะได้เร่งระบายลงทะเลไว้ด้วย สำหรับแผนบรรเทาอุทกภัย จ.นครศรีธรรมราช คาดว่าจะก่อสร้างคลองผันน้ำเลี่ยงเมืองลงทะเล ใช้เวลา 3 ปีเสร็จ ระยะทาง 10 กิโลเมตร ได้ในปี 2561 ได้เริ่มเจรจาเวรคืนที่ดินแล้ว เพราะที่ผ่านมีปัญหาการมีส่วนร่วมทำให้โครงการล่าช้า ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมหนักต่อเนื่อง 2 ครั้ง ช่วงเดือน ธ.ค.และ ม.ค.มีส่วนทำให้ประชาชนเห็นผลดีหากมีโครงการนี้จะแก้ไขอุทกภัยได้ดีขึ้น