จ่อยกเลิกขึ้นทะเบียนยาคอริสตินห้ามใช้ในสัตว์

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/253668

วันจันทร์ ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560, 17.47 น.

23 ม.ค. 60 นายอภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยกรณีฟาร์มสุกรมีการใช้ยาปฎิชีวนะที่เป็นยาตัวเดียวกันในคนจึงความเสี่ยงต่อยืนดื้อยาสายพันธุ์ใหม่ซึ่งจะส่งผลต่อการดื้อยาในคนด้วยนั้น ว่ายาคอริสติน เป็นยาปฎิชีวนะทั่วไปที่ใช้มากนานแล้วในสัตว์ต่างๆ ซึ่งกรมปศุสัตว์ อาจมีแนวทางที่จะยกเลิกการขึ้นทะเบียนยาคอริสติน เป็นยาใช้ในสัตว์ โดยให้สงวนไว้ใช้ในคนเท่านั้น เพราะถ้าสัตว์ไปใช้มากๆเข้าจะดื้อยาได้ โดยวันที่ 24 ม.ค. กรมปศุสัตว์ สำนักงานอาหารและยา(อย.) สมาคมสัตว์แพทย์คุมฟาร์มสุกร สมาคมผู้เลี้ยงสุกร สมาคมอาหารสัตว์ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ จะประชุมหารือร่วมกันและแถลงข่าวที่โรงแรม เดอสุโกศล ถึงแนวทางการนำไปสู่การยกเลิกใช้ยาตัวนี้ในสัตว์

“หลายฝ่ายมีความเป็นห่วง แม้ว่าตอนนี้ยังไม่เกิดการดื้อยาในสัตว์และในคน แต่เชื้อแบคทีเรียตัวนี้อาจมีโอกาสก่อโรคในคน และเขากลัวว่าถ้าคนจะดื้อต่อยาตัวนี้ ซึ่งเป็นยาปฎิชีวนะใช้กับโรคติดเชื้อแบคทีเรียทั่วไป โดยเฉพาะทางเดินอาหารซึ่งกังวลว่าอาจจะดื้อยาในคนได้ เพราะในอดีตมีการใช้ยาปฎิชีวะจำนวนมากในสุกรจริงและใช้เยอะในสัตว์อื่นๆ แต่ตอนนี้หลังจากกรมปศุสัตว์ วางระบบมาตรฐานฟาร์มสัตว์ทั่วประเทศได้มากถึงร้อยละ 90  มีหลักเกณฑ์คุมอยู่เรื่องการใช้ยาปฎิชีวะ ที่มีการสุ่มตรวจฟาร์ม ที่โรงฆ่า จากตัวอย่าง 6 พันตัวอย่าง ตรวจทั้งปีทุกปีมาต่อเนื่อง ยืนยันว่ายังไม่พบการดื้อต่อยาตัวนี้ แต่อย่างไรก็ตาม เราเห็นด้วยว่าในอนาคตเชื้อนี้เกิดการดื้อยาได้”นายอภัย กล่าว

อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่าทางกรมได้วางหลักเกฑณ์กำกับในแนวทางแก้ไขปัญหาดังนี้ 1.อาจขอยกเลิกทะเบียนยาตัวนี้ เพราะทุกคนเป็นกังวลว่าในอนาคตไม่มียาตัวนี้มารักษาคน และถ้าจำเป็นไม่อยากเสี่ยงต่อไปที่จะใช้ในสัตว์ 2.ใช้ระบบการเลี้ยงความปลอดภัยทางชีวภาพ ระบบเลี้ยงแบบโรงเรือนปิด จะช่วยเรื่องกันเชื้อโรคได้ ไม่มีความจำเป็นในการยาปฎิชีวนะผสมอาหาร ซึ่งปัจจุบันนี้ลดการใช้ไปมาก มีแต่ใช้ลูกสุกรป้องกันการท้องเสีย 3.พัฒนาสมุนไพร จุรินทรีย์ เขามาทดแทนยาได้  ซึ่งกรมกำลังขับเคลื่อนเต็มที่ เพื่อเป็นไปตามนโยบายอินทรีย์ มาตรฐานอาหารปลอดภัย ลดการใช้ยาไปได้มาก 4.พัฒนาพันธุ์สุกรทนโรค เป็นงานวิจัยหลักของกรม ตอนนี้ได้สายพันธุ์แข็งแรงแล้วผสมระหว่างสุกรพันธุ์พื้นเมืองกับพันธุ์นอก ตั้งซื่อ”หมูดำ เชียงใหม่” กำลังขับเคลื่อนเข้าสู่เชิงพาณิชย์  โดยอาจจะโตช้ากว่า 15 วัน โดยประมาณ แต่หากเทียบกับไม่ต้องใช้ยา ไม่ต้องใช้วัคซีน โตช้า 15 วันก็คุ้ม  ทั้งนี้การเลี้ยงแบบเดิมมีความหนาแน่นสุกรมากใช้ยาใช้วัคซีนมาก จะทะยอยหมดไปเพราะขาดทุน ที่สำคัญกระแสของผู้ซื้อต้องอาหารปลอดภัย ตนยืนยันว่าเทศกาลตรุษจีนนี้กินหมู กินไก่ได้สบายใจ เพราะสามารถลือกซื้อจากร้านที่มีตรารับรองความปลอดภัยของกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงสาธารณสุข ได้ทั่วประเทศ

Leave a comment