ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/253948
วันพฤหัสบดี ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.
นายอภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่มีการรายงานทางวิชาการเกี่ยวกับการดื้อยาต้านจุลชีพ โดยเฉพาะการตรวจพบยีนดื้อยา Colistin MCR-1 นั้น กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการมาตรการต่างๆ โดยมีการเฝ้าระวังการดื้อยาต้านจุลชีพในฟาร์มสุกรและสัตว์ปีก มีการสุ่มเก็บตัวอย่างอวัยวะภายในและเนื้อสัตว์ 6,000 ตัวอย่าง/ปี เพื่อตรวจหาสภาวะการดื้อยาต่อเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ในปี 2559 ผลสรุปเบื้องต้นพบว่า ยังไม่พบปัญหาการดื้อยาต้านจุลชีพต่อยา Colistin จากสัตว์สู่คนแต่อย่างใด รวมทั้งกรมปศุสัตว์ได้มีหนังสือแจ้งไปยังภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้ควบคุมและลดปริมาณการใช้ยาปฏิชีวนะในสัตว์ โดยเฉพาะ Colistin โดยให้ใช้ในกรณีจำเป็นเท่านั้น ไม่ให้ใช้ในการควบคุมหรือป้องกัน
นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยัง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการพิจารณาทบทวนทะเบียนสูตรตำรับยาและข้อบังคับใช้ยา Colistin ให้เหมาะสม จำกัดช่องทางการกระจายยาโดยเฉพาะเภสัชเคมีภัณฑ์จะต้องไม่อนุญาตให้นำไปใช้ในฟาร์ม ซึ่งอาจจะอนุญาตให้นำไปผลิตเป็นยาบรรจุเสร็จในโรงงานเท่านั้น จำกัดปริมาณการขายยา Colistin ให้ลดลงอย่างน้อย 70% ทั้งยังประสานไปยังสัตวแพทยสภา และสมาคมที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแลให้สัตวแพทย์ เป็นผู้พิจารณาการใช้ยาอย่างรอบคอบ
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวต่อว่า กรมปศุสัตว์บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้นำเข้า ผู้ผลิต ผู้ขาย หรือผู้ใช้ยาสัตว์และอาหารสัตว์ที่ผสมยาหรือสารต้องห้ามที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเข้มงวด โดยปี 2559 มีการจับกุมดำเนินคดีกว่า 100 ราย มีการยึดยา Colistin เถื่อนที่เป็นเภสัชเคมีภัณฑ์ด้วย ซึ่งปัจจุบันในการเลี้ยงสุกรยังมีการใช้ยาปฏิชีวนะในลูกสุกรเพื่อป้องกันหรือควบคุมไม่ให้เกิดโรค กรมปศุสัตว์ ร่วมมือกับภาคเอกชนในการส่งเสริม สนับสนุน แนะนำให้จัดทำระบบการเลี้ยงที่สามารถป้องกันโรคได้ เพื่อให้เกษตรกรเกิดความมั่นใจและลดการใช้ยาปฏิชีวนะ และได้ร่วมกับภาคเอกชนในการศึกษาวิจัยและทดลองภาคสนามในการใช้สมุนไพร Probiotic Prebiotic หรือสารจากธรรมชาติมาทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะ ซึ่งผลการวิจัยมีแนวโน้มว่าสามารถใช้ในการป้องกันควบคุมโรคได้ ทั้งยังได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำแผนปฏิบัติการ การจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพของประเทศไทย พ.ศ.2560-2564 เพื่อป้องกันและควบคุมเชื้อดื้อยา และกำกับดูแลการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสมในภาคอุตสาหกรรมปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยง โดยกรมปศุสัตว์จัดทำโครงการร่วมกับองค์กรสากล เช่น องค์กรอาหารและการเกษตรแห่งประชาชาติ (FAO) ในการวิเคราะห์และจัดการความเสี่ยงของเชื้อดื้อยาในกระบวนการผลิตสินค้าปศุสัตว์และโครงการอื่นๆ เพื่อเป็นการซักซ้อมและให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้อง ที่สำคัญกรมปศุสัตว์เสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับยา (พ.ร.บ.ยา 2510) เพื่อให้สามารถในการกำกับดูแลเภสัชเคมีภัณฑ์ไม่ให้เข้าไปในฟาร์มได้ และการขายยาสัตว์บางชนิดต้องขายยาให้ผู้มีใบสั่งซื้อมาจากสัตวแพทย์ และได้ควบคุมการนำยาปฏิชีวนะไปผสมในอาหารสัตว์
“แม้ว่าปัจจุบันยังไม่เกิดปัญหาเชื้อดื้อยา Colistin แต่กรมปศุสัตว์ จะดำเนินการตามมาตรฐานอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะสามารถยับยั้งการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียต่อยา Colistin ได้ ทั้งนี้กรมปศุสัตว์ยังมีสัตวแพทย์ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในรูปแบบสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มอย่างเพียงพอในการกำกับดูแล มีฟาร์มมาตรฐาน โรงฆ่าสัตว์ที่ถูกสุขอนามัย ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ทางปศุสัตว์มีความสะอาดปลอดภัยต่อผู้บริโภค” อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าว