ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/254431
วันจันทร์ ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า พล.อ.ฉัตรชัยสาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยประชาชนภาคใต้ที่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วม จึงมอบหมายให้กรมชลประทานนำเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ ติดตั้งเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้สถานการณ์น้ำปัจจุบันคงเหลือพื้นที่น้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำบางแห่ง ซึ่งกรมชลประทาน ยังคงเดินหน้าระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยจ.สุราษฎร์ธานีระดับน้ำในแม่น้ำตาปีบริเวณ อ.เคียนชา และอ.พุนพิน มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง คงเหลือน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ประมาณ 16,500 ไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำ ประมาณ40 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะลดลงตามระดับน้ำในแม่น้ำตาปี กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 32 เครื่อง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3-4 วัน
ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช พื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังตอนล่าง มีปริมาณน้ำคงเหลือในพื้นที่ประมาณ 551 ล้านลูกบาศก์เมตร มีแนวโน้มลดลงแล้ว รวมเครื่องจักรเครื่องมือที่กรมชลประทานได้ส่งไปสนับสนุนการระบายน้ำในเขตจ.นครศรีธรรมราช มีดังนี้ เครื่องสูบน้ำ
จำนวน 113 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 69 เครื่อง และกองทัพเรือได้สนับสนุนเรือผลักดันน้ำ 60 ลำ สำหรับเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด
ในพื้นที่ จ.สงขลา ยังคงมีน้ำท่วมขังที่ลุ่มต่ำริมทะเลสาบสงขลา บริเวณอ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ อ.สทิงพระ และอ.สิงหนคร แนวโน้มน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง พื้นที่น้ำท่วมส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตรว่างเปล่า ประมาณ 37,000 ไร่คงเหลือปริมาณน้ำท่วมขัง ประมาณ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 18 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 11 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่องสำหรับ จ.นราธิวาสระดับน้ำที่สะพานลันตู อำเภอสุไหงโก-ลก สูงกว่าระดับตลิ่ง 1.06 เมตร โดยได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 เครื่อง เร่งระบายน้ำร่วมกับสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าอีก 6 สถานี
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ กรมชลประทาน ยังคงเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ต่างๆอย่างต่อเนื่อง รวมเครื่องจักร เครื่องมือ ที่ได้จัดส่งเข้าไปติดตั้งช่วยเหลือการระบายน้ำในพื้นที่ภาคใต้ ดังนี้ เครื่องสูบน้ำออกปฏิบัติการ 180 เครื่อง สำรองไว้ 447 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำออกปฏิบัติการ 112 เครื่อง สำรองไว้ 51 เครื่อง สถานีสูบน้ำถาวร 11 สถานี และรถขุดตัก 15 คัน สำรองไว้ 85 คัน