เป็นเจนเนอเรชั่นรุ่นใหม่ที่มีความสามารถเกินตัวจริงๆ สำหรับ “แป้ง-ณัฐนันท์ ประสงค์ชัยกุล” ที่มารับช่วงต่อจากคุณแม่ (นุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ) ในการบริหารงานบริษัทรับเหมาตกแต่งภายในชื่อดัง นั่นคือ บริษัท บางกอก เดค-คอน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้หญิงเก่งขนาดนี้ รายการ “ผู้หญิงแนวหน้ากับคุณแหน” ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น.ทางสถานี TNN2 ช่อง 784 ช่วง Focus On พิธีกร“ขิม-ทิพย์ลดา พูนศิริวงศ์” จึงต้องตามไปพูดคุยด้วย

แป้ง-ณัฐนันท์ ประสงค์ชัยกุล เล่าว่า “ตอนนี้เป็นผู้จัดการทั่วไปของ บริษัท บางกอก เดค-คอน จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทรับเหมาตกแต่งภายใน หน้าที่หลักๆ เลยตอนนี้ก็คือ ดูแลงานด้านนักลงทุนสัมพันธ์ (Investor Relations) แล้วก็มีเป็นมาร์เก็ตติ้งนิดหน่อย สำหรับงานรับเหมาตกแต่งภายในที่ทำอยู่ก็คือ บริษัทจะรับงานเป็นโปรเจกท์ใหญ่ๆ เช่น โรงแรม โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า หรือว่าคอนโดมิเนียม ซึ่งเขาก็จะมีแบบมาให้ แล้วเราก็ทำตามแบบ อย่างที่เห็นในห้องที่เรานั่งอยู่นี้ ทุกอย่างเราเป็นคนจัดทำให้หมด ตั้งแต่ฝ้ากระทั่งพื้น เราทำตามแบบที่ดีไซเนอร์ออกแบบมา แล้วก็เป็นคนจัดหาทุกอย่างมาทำตามแบบนั้นๆ

บริษัทก่อตั้งโดย คุณแม่ (นุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ) ท่านตั้งบริษัทนี้มาตั้งแต่ปี 1985 ก็ 30 กว่าปีแล้ว ตอนนั้นคุณแม่ก็ไม่ได้มีธุรกิจอะไรเป็นของตัวเอง แล้วบริษัทนี้เขาขายเหมือนเซ้งทั้งเครื่องจักรแล้วก็ชื่อบริษัทด้วย คุณแม่ก็เลยซื้อมา แล้วก็ทำมาตั้งแต่ตอนนั้น

รุ่นแป้งถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ต่อจากคุณแม่ที่เข้ามาบริหารงานธุรกิจนี้ ถามว่าแป้งเห็นอุปสรรคความยากง่ายอย่างไรเกี่ยวกับสายงานนี้บ้าง ก็เป็นที่รู้ๆ กันไม่มากก็น้อยคนเราเวลาที่จะทำบ้านใหม่ก็จะเจอปัญหากับช่างรับเหมา เช่น ช่างรับเหมาหนีบ้าง หรือว่าจ่ายเงินแล้วไม่ทำ ทำไม่ครบ ทำไม่เสร็จอะไรอย่างนี้

แต่สำหรับบริษัทเรา ก็จะไม่เจอปัญหานั้น เนื่องจากว่าบริษัทเราเป็นบริษัทมหาชน แล้วก็มีเงินสดที่หมุนอยู่ในบริษัทตลอดเวลา เราก็จะสามารถซัพพอร์ต แล้วก็ลงเงินให้กับลูกค้าก่อนได้ ก็คือจ่ายเงินให้ช่างก่อนได้ แต่ปัญหาก็คือถ้าช่างของเราหนีไป คือเราจ่ายเงินแบบว่าทำเสร็จเท่าไหน เราจ่ายเงินเท่านั้น เพราะฉะนั้นเขาไม่สามารถที่จะมาเอาเงินของเราไปได้ก่อนก็ถือว่าเป็นการเซฟลูกค้า และก็ลดความเสี่ยงให้กับลูกค้า

ที่ผ่านมาโปรเจกท์ที่บริษัทเราทำมาก็มี เช่น โรงแรมที่เรานั่งกันอยู่นี้ก็คือ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอริเดียน เป็นงานที่เราได้รีโนเวททั้งตึกเลย คือโรงแรมน่าจะสร้างมาหลายปีแล้ว แต่ว่าเรามารีโนเวทประมาณ 2 ปีที่แล้ว

ตอนที่รีโนเวท เราก็ได้ทีละ 3 ชั้น เนื่องจากว่าโรงแรมไม่ได้ปิดตัวลง ยังให้บริการอยู่ตลอดเวลา เลยได้ทำทีละ 3 ชั้นเรียกว่าเป็นงานที่หินมากงานหนึ่ง เพราะว่าเราต้องมีเวลาจำกัดในการทำงาน แล้วถ้าตอนกลางคืนเราก็จะเสียงดังมากไม่ได้ เพราะจะรบกวนแขกที่มาพัก ซึ่งเราใช้เวลารีโนเวททั้งหมดประมาณ 1 ปี ก็ถือว่านานนะคะเพราะว่าเป็นงานรีโนเวทถ้าเกิดว่าเป็นงานโรงแรมใหม่ ถ้าให้เวลาเราเตรียมงานที่โรงงาน ประมาณ 2 เดือนเราก็ทำงานเสร็จได้

ส่วนโปรเจกท์อื่นๆ ก็มีทำโรงพยาบาลจุฬาฯ ตึกภูมิสิริ เพิ่งจบไป ตอนนี้มีทำตึก กทม. ที่ดินแดง แต่ไม่ใช่ที่เป็นข่าวนะคะ ซึ่งบริษัทเราได้ทำอินทีเรียทั้งตึกเลย แล้วก็มีโรงแรมที่กำลังจะเสร็จด้วยก็คือ แมริออท ควีนส์ปาร์ค

สำหรับเรื่องเทคนิคการประกอบธุรกิจและดำเนินชีวิตของแป้งนั้น จริงๆ ก็มีคำสอนอยู่คำสอนหนึ่งนะคะ ที่แป้งคิดว่าทุกคนน่าจะใช้กัน ก็คือเป็นคำสอนของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ว่าในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ใช่แค่จะมีความคิดที่ดี แต่จะต้องมีความซื่อสัตย์ สุจริตในการทำสิ่งๆ นั้นด้วย

ถามว่าแป้งมองแผนการในอนาคตและการเติบโตของบริษัทอย่างไร ตอนนี้ตลาดตกแต่งภายในในเมืองไทยก็เริ่มจะช้าลง เพราะว่ามันน่าจะถึงจุดพีคสุดแล้ว ตอนนี้เราก็มีพาร์ทเนอร์ที่เป็นคนกัมพูชา คือเรามีโปรเจกท์อยู่ที่กัมพูชาอยู่โปรเจกท์หนึ่ง เป็นโปรเจกท์หมู่บ้านจัดสรร ตอนนี้เราก็กำลังคุยกันอยู่ แล้วก็ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาว่าเราจะไปเปิดตลาดที่นั่นอย่างไรอันนี้ก็เป็นแผนอันใกล้ค่ะ”