ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/255722
วันพุธ ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 11.40 น.
ผู้อำนวยการสำนักชลประทานภาคกลางฝั่งตะวันตก ออกมาชี้แจงวอนประชาชนอย่าแตกตื่นกับข่าวลือภัยแล้ง และขอร่วมมือให้เริ่มทำตามแผนการจัดการน้ำตั้งแต่วันนี้ ก็จะทำให้แก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งได้ไปถึงอนาคตด้วย
8 ก.พ.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสถึงความตื่นตระหนกของประชนชน ที่กังวลใจว่า ในปีนี้อาจจะเกิดภัยแล้งรุนแรง ไม่น้อยกว่าปี 2559 นั้น ล่าสุด นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 ชัยนาท ซึ่งรับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำภาคกลางฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นพื้นที่การเกษตรหลักหรือนาข้าวแหล่งใหญ่ที่สุดของประเทศ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ปัจจุบันตัวเลขปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักของประเทศอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถบริหารจัดการได้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนภายใต้แผนปัจจุบัน คือเขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำที่ใช้การได้ 3,005 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนสิริกิติต์ 4,808 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน 903 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 988 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมทั้ง 4 เขื่อน 9,704 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะนำมาจัดสรรเพื่อการอุปโภคบริโภค 1,100 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อรักษาระบบนิเวศก์ 1,450 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อพืชสวนพืชต่อเนื่อง 400 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อการเพาะปลูกพืชทดแทน 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร และน้ำสำรองในฤดูแล้งเดือน พฤษภาคม-กรกฎาคม 2560 อีก 3,754 ล้านลูกบาศก์เมตร

“ดังนั้น เกษตรกรที่จะทำการเพาะปลูกในระยะนี้ ควรเป็นพืชใช้น้ำน้อย ส่วนการทำนาต่อเนื่องควรพิจารณาเรื่องแหล่งน้ำสำรอง เพราะพื้นที่ภาคกลางมีพื้นที่การเกษตรหน้าแล้งตามแผน 2.6 ล้านไร่ แต่มีการปลูกข้าวแล้ว 3.9 ล้านไร่ ซึ่งในส่วนที่เกินแผน จะต้องรับความเสี่ยงที่จะเสียหายเอง แต่หากประชาชนร่วมมือกับทางราชการ ใช้น้ำตามแผนอย่างจริงจัง ก็มั่นใจได้ ว่าจะไม่เกิดภาวะขาดแคลนน้ำ จึงต้องขอความร่วมมืออย่างเข้มข้นเป็นการรีเซ็ตระบบการใช้น้ำให้เข้าที่เข้าทาง โดยในส่วนของนาลุ่ม ขอให้ทำนาตามระบบเดิมคือ เริ่มเพาะปลูกเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน เพื่อให้ทันต่อการเก็บเกี่ยวก่อนน้ำหลากที่พื้นที่นาลุ่มจำเป็นต้องใช้เป็นพื้นที่แก้มลิงเก็บน้ำ ส่วนนาดอน ควรเหลื่อมเวลาเพาะปลูกไปหลังพื้นที่นาลุ่ม เพื่อไม่ให้เกิดการแย่งน้ำต้นฤดูกับพื้นที่นาลุ่ม เพราะนาดอนไม่ต้องกังวลกับน้ำหลาก เนื่องจากเป็นพื้นที่น้ำท่วมไม่ถึง และสามารถทำนาปรังต่อเนื่องได้ในช่วงน้ำหลากได้ ซึ่งหากทุกคนร่วมมือกันเคารพกติกาตามแผนการบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน ในอนาคตจะลดปัญหาเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้งลงได้อย่างแน่นอน” นายสุชาติ กล่าว




