ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/255490
วันอังคาร ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 06.00 น.
คำถาม ขอทราบวิธีแก้ปัญหาสวนปาล์มน้ำมันหลังน้ำท่วม และวิธีการดูแลสวนปาล์มด้วยครับ
สุข วันทานะ
อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
คำตอบ หลังผ่านวิกฤติน้ำท่วม ความเสียหายต่อผลผลิต ก็ขึ้นอยู่กับระดับความเสียหาย ต้นปาล์มต้องสร้างระบบรากและลำต้นให้แข็งแรงเต็มที่ก่อน จึงจะกลับมาให้ผลผลิตได้ตามปกติ หลังจากทำตามขั้นตอนที่แนะนำนี้ ต้องรอให้ต้นปาล์มฟื้นตัวขึ้นตามลำดับ นักวิชาการเกษตรได้แนะนำไว้ดังนี้
ผลกระทบที่เกิดขึ้น จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ต้นปาล์มน้ำมันถูกน้ำท่วมขัง ดังนี้
กรณีที่น้ำท่วมขังนาน 0-15 วัน ไม่เกิน 2 สัปดาห์ ในพื้นที่ทั่วไปหากน้ำท่วมระยะสั้นๆ ต้นปาล์มน้ำมัน ไม่มีปัญหาทำให้ยอดเน่า หลังจากชะงักช่วงสั้นๆ ต้นปาล์มจะสามารถฟื้นฟูตัวได้เอง สามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ
กรณีน้ำท่วมขังนาน 15-30 วัน ต้นปาล์มน้ำมัน จะสามารถฟื้นฟูตัวได้ หลังจากน้ำลดแล้ว 30 วัน ทะลายที่ถูกน้ำท่วม จะเน่าเสียหายทั้งหมด ทะลายที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำสามารถเก็บเกี่ยวได้ในระยะต่อไป
กรณีน้ำท่วมขังนาน 30-60 วัน ต้นปาล์มน้ำมันมีโอกาสตายสูงมาก จะเริ่มแสดงอาการใบเหลือง เนื่องจากการขาดธาตุอาหาร รากปาล์มน้ำมันบางส่วนเสียหาย ทะลายที่ถูกน้ำท่วมจะเน่าเสียหายทั้งหมด ทะลายที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำจะเริ่มฝ่อ และเน่าก่อนที่จะสุกเก็บเกี่ยวได้ จะต้องทำการฟื้นฟูให้ต้นปาล์มน้ำมันแข็งแรง
กรณีน้ำท่วมขังมากกว่า 60 วัน ต้นปาล์มน้ำมันจะทรุดโทรมอย่างมาก ผลิใบใหม่ได้น้อย หรือไม่ผลิใบเพิ่ม ใบจะเหลืองแห้ง ยอดเรียวลง เนื่องจากระบบรากถูกทำลาย ไม่สามารถดูดน้ำ และธาตุอาหารที่จำเป็นได้ ผลผลิตทะลายจะเสียหายเกือบทั้งหมด ต้องระบายน้ำที่ท่วมขังออกก่อน แล้วจึงฟื้นฟูต้นปาล์มน้ำมันให้แข็งแรง และให้ผลผลิตต่อไป
วิธีการฟื้นฟูสวนปาล์มน้ำมันหลังน้ำท่วม
ขั้นแรกควรทำทางระบายน้ำทันที ให้ออกจากบริเวณโคนต้นปาล์มน้ำมันโดยเร็ว โดยรักษาระดับน้ำให้ต่ำกว่าบริเวณโคนต้นปาล์มน้ำมัน 30 เซนติเมตร
ในขณะดินยังมีความชื้นอยู่ ไม่ควรเหยียบย่ำบริเวณโคนต้นปาล์มน้ำมันโดยเด็ดขาด ทั้งคนและสัตว์เลี้ยง หรือนำเครื่องจักรกลเข้าในแปลงปลูก เพราะหน้าดินที่ถูกน้ำขังจะมีโครงสร้างที่ง่ายต่อการถูกทำลาย และเกิดการอัดแน่นของดิน จึงเป็นผลเสียต่อการไหลซึมของน้ำ และการระบายอากาศ รวมทั้งจะกระทบกระเทือนต่อระบบรากพืช อาจทำให้ต้นปาล์มน้ำมันโทรม หรือตายได้
ในสภาพน้ำท่วมที่มีการชะล้างนำเอาหน้าดิน หรือทรายมาทับถมบริเวณโคนต้น หลังน้ำลดและดินแห้งแล้ว ควรปรับแต่งดินเหล่านั้น ออกจากโคนต้นปาล์มน้ำมัน ถ้าหากพบต้นปาล์มน้ำมันที่ล้มหรือเอนเอียง ควรใช้ไม้ค้ำยันจัดการให้ต้นตั้งตรงเช่นเดิม
ในพื้นที่ที่ใกล้โรงงานอุตสาหกรรม อาจมีสารเคมีแปลกปลอมมากับน้ำด้วย อาจมีสภาพเป็นกรด ความเข้มข้นขึ้นกับปริมาณสารเคมีที่ละลาย หลังน้ำลดต้องรีบใส่ปูนขาวโดยเร็ว ส่วนพื้นที่ที่อาจมีสารเคมีประเภทด่าง ก็ต้องใช้น้ำส้มสายชูละลายน้ำไปรดรอบทรงพุ่ม เป็นต้น พื้นที่ประเภทนี้ ทางที่ดีควรขอให้ทางการช่วยวัดความเป็นกรดเป็นด่างของดินให้ก่อน จะได้ประเมินได้ง่ายขึ้น
หากตรวจพบต้นปาล์มน้ำมันตาย ให้ขุดต้นที่ตายและทำลายทิ้ง ใช้ปูนขาวโรยในหลุมปลูกเพื่อฆ่าเชื้อโรค ทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ รองก้นหลุมด้วย ร็อกฟอสเฟส 0-3-0 ครึ่งกิโลกรัม แล้วปลูกซ่อมทันที
หลังน้ำลดและดินแห้งแล้ว ให้ใช้ปูนขาวโรยบริเวณรอบโคนต้น เพื่อปรับสภาพดินและฆ่าเชื้อโรคที่มาจากน้ำท่วม และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เพื่อปรับโครงสร้างดินให้ดีขึ้น โดยใช้ปุ๋ยสูตร 0-3-0 เพื่อเร่งการเจริญของระบบราก สำหรับปาล์มต้นเล็กใช้ปริมาณ 500 กรัม และปาล์มต้นใหญ่ใช้ปริมาณ 1.5 กิโลกรัมให้ฉีดพ่นปุ๋ยทางใบด้วย เพื่อช่วยให้ปาล์มน้ำมันฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ห้ามใส่ปุ๋ยทางราก เพราะระบบรากพืชยังไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ต้องให้เกิดรากใหม่ขึ้น โดยใช้ปุ๋ยเกร็ดสูตร 21-21-21 ในปาล์มน้ำมันที่ให้ผลผลิตแล้ว หากน้ำท่วมทะลายเป็นเวลานาน จะทำให้ทะลายเน่า ควรตัดทะลายเน่าทิ้ง
หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดเชื้อราและแพร่กระจายไปยังทะลายอื่น หรือส่วนอื่นๆ ได้ภายหลังจากน้ำท่วม มักเกิดปัญหาโรคที่เกิดจากเชื้อรา เช่น ยอดเน่า ทะลายเน่า รากเน่าให้ตัดยอดปาล์มน้ำมันที่เน่าทิ้ง หรือส่วนอื่นๆ ที่เน่าออกก่อน แล้วให้ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันและกำจัดเชื้อรา
อย่าด่วนสรุปว่าต้นปาล์มจะไม่รอด ให้สังเกตจากใบปาล์มก่อน ถ้าใบแห้งหมดทั้งต้น และโคนต้นเปื่อยหมด อันนี้ถึงรอดก็คงโตช้า ควรจะปลูกทดแทน ถ้าใบแห้งบางส่วน แต่ยังมีใบสีเขียว โคนต้นยังแข็ง ลักษณะนี้ โอกาสรอดสูงมาก ถ้าหากยอดเน่าเปื่อย ให้ตัดยอดที่เน่าออก เอาปูนขาวโรยลงไปในยอด อาจใช้เวลาหลายเดือนกว่ายอดใหม่จะขึ้นมา คงต้องใช้เวลา โอกาสรอดมีครับ
นาย รัตวิ