ไทย-แคนาดาขยายความร่วมมือวิชาการ ยกระดับสินค้าปลอดภัย-ต่อยอดการค้าระหว่างประเทศ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/256272

วันจันทร์ ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 06.00 น.

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้หารือความร่วมมือด้านการเกษตรกับ นางโดนิกา พอตตี เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย โดยมุ่งยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตรให้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้การดำเนินความร่วมมือเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดการขยายความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่าง 2 ประเทศมากขึ้น จึงเห็นควรให้ขยายความร่วมมือด้านวิชาการระหว่างกันในสาขาอื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ในการเกษตร รวมทั้งช่วยอำนวยความสะดวกในการค้าสินค้าเกษตรระหว่างกันต่อไป

สำหรับประเด็นที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์นำมาหารือกับแคนาดามี 3 ประเด็นหลัก คือ 1.การขยายสินค้าเกษตรโดยการยกระดับความเท่าเทียมในการเป็นคู่ค้าระหว่าง 2 ประเทศ 2.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ประกาศให้ปี 2560 เป็นปีแห่งการยกระดับคุณภาพสินค้าเกษตร เช่น รูปแบบแปลงใหญ่ เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าเกษตรได้มีคุณภาพ โดยใช้ต้นทุนที่ต่ำลง และ 3.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญในความปลอดภัยของสินค้าปศุสัตว์ และประมง ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญที่อยู่ในระหว่างการขับเคลื่อนของกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งแคนาดายินดีจะสนับสนุนความร่วมมือทั้ง 3 ประเด็น นอกจากนี้ ยังมีความประสงค์ที่จะส่งออกเนื้อสุกรและเครื่องในสุกรมายังประเทศไทย ในกรณีที่แคนาดาสามารถพิสูจน์ได้ว่า เนื้อสุกรของแคนาดาปลอดสารเร่งเนื้อแดง ซึ่งกระทรวงเกษตรฯโดยกรมปศุสัตว์อยู่ระหว่างการปรับปรุงข้อกำหนดขั้นตอนการนำเข้าสินค้าสัตว์มีชีวิตและผลิตภัณฑ์สัตว์จากต่างประเทศเข้ามายังไทย

ขณะที่ด้านการค้าระหว่างไทยและแคนาดานั้น แคนาดาเป็นประเทศคู่ค้าสินค้าเกษตรอันดับที่ 19 ของไทย ในระหว่างปี 2556-2558 มีสัดส่วนการค้าสินค้าเกษตรร้อยละ 1.66 ของมูลค่าการค้าสินค้าเกษตรของไทยกับโลก (เฉลี่ยประมาณปีละ 23,555 ล้านบาท) ทั้งนี้ ฝ่ายไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้ากับแคนาดามาโดยตลอด โดยสินค้าเกษตรส่งออกไปแคนาดาที่สำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ปลาทูน่าปรุงแต่ง 2.ข้าว 3.กุ้งแช่เย็น แช่แข็ง 4.กุ้งปรุงแต่งไม่บรรจุกระป๋อง และ 5.เนื้อไก่ปรุงแต่ง ส่วนสินค้าเกษตรนำเข้าจากแคนาดาที่สำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ข้าวสาลีและเมสลิน สำหรับบริโภค 2.ถั่วเหลืองใช้สำหรับบริโภค 3.กากน้ำมัน (ออยล์เค้ก) และกากแข็งอื่นๆ ที่ได้จากน้ำมันของเมล็ดเรปหรือโคลซา 4.กุ้งน้ำเย็นรมควัน และ 5.ปูแช่แข็ง

 

Leave a comment