รายงานพิเศษ : แผนฟื้นฟูสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนยังเดินหน้า เร่งกู้ความเชื่อมั่นกลับมาเหมือนเดิม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/257420

วันพุธ ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 06.00 น.

ภายใต้การปฏิรูปประเทศ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ให้กับเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาล “ระบบสหกรณ์” ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่จะสร้างพลังความช่วยเหลือกันภายในชุมชน และสร้างพลังต่อรองกับคนภายนอก แต่การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจไทยอย่างรวดเร็ว รวมทั้งความหละหลวมบางอย่าง ทำให้ “ระบบสหกรณ์” เกิดช่องโหว่จนทำให้เกิดการฉ้อโกงขึ้น ยกตัวอย่างคดีที่โด่งดังมากที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คือ กรณีของ “สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น” ที่พบการทุจริต แม้จะเป็นปัญหาที่เกิดมาจากตัวผู้บริหาร ซึ่งถือเป็นกรณีส่วนบุคคลไม่ใช่ปัญหาที่องค์กรหรือสถาบันสหกรณ์ แต่ก็ส่งผลกระทบต่อต่อระบบสหกรณ์เป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ก็กำลังถูกสะสางจากคณะกรรมการชุดปัจจุบันภายใต้การนำของ “ประกิต พิลังกาสา” อย่างเป็นระบบ

นายประกิต พิลังกาสา ประธานคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด กล่าวว่า คณะกรรมการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ในปัจจุบันเป็นชุดที่ 31 ซึ่งมีที่มาจากคำสั่งศาลล้มละลายเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2559 ให้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นฟื้นฟูกิจการตามแผนได้ โดยมีประธานกรรมการดำเนินการ 1 คน และกรรมการดำเนินการอีก 14 คน เป็นไปตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ เป้าหมายเร่งด่วนคือใช้หนี้สมาชิกเจ้าหนี้ทั้งหมดและทำให้ธุรกิจของสหกรณ์กลับมาสู่ภาวะปกติ

ตามแผนฟื้นฟูสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น วางแนวทางการหารายได้มาชำระหนี้กว่า 18,000 ล้านบาท ให้กับสมาชิกเจ้าหนี้กว่า 18,000 คน ไว้ 3 วิธีคือ การทำธุรกิจปกติ ทั้งธุรกิจเดิม คือปล่อยสินเชื่อ, รับชำระหนี้จากลูกหนี้ และประกอบธุรกิจใหม่ แนวทางที่ 2 มาจากการดำเนินคดีติดตามทรัพย์คืน และการจัดหาแหล่งเงินทุนจากภาครัฐ 10,000 ล้านบาท ซึ่งกรณีเงินสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อฟื้นฟูกิจการ นายกรัฐมนตรีได้มีบัญชาให้ทุกภาคส่วน รวมถึงสหกรณ์ฯ คลองจั่น ร่วมประชุมหารือแก้ไขปัญหาและขับเคลื่อนแผนฟื้นฟูกิจการโดยเร็ว เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชน และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบสหกรณ์ และพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุดและจัดตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อขับเคลื่อนแผนฟื้นฟู แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ทำให้สหกรณ์ต้องเร่งหาเงินด้วยตัวเองมาเตรียมชำระหนี้ให้กับสมาชิก งวดที่ 3 วงเงิน 600 ล้านบาทในเดือนมิถุนายน ปี 2560 และคงต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามและเจรจากับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อช่วยเร่งรัดหาแนวทางจัดหาแหล่งเงินกู้ต่อไป

ส่วนความคืบหน้าทางคดี มีคำสั่งศาลให้สหกรณ์ฯ ชนะคดีที่ฟ้องแพ่งนายศุภชัย กับพวกรวม 13 คน โดยต้องชดใช้เงิน 3,800 ล้านบาท ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ชุดปัจจุบันระบุว่าในคดีนี้มีการอายัดทรัพย์สินไว้เกือบ 600 รายการ ตั้งแต่ปี 2556 ด้วย หากจำเลยไม่สามารถชำระหนี้ได้ สหกรณ์ฯ จะขอให้มีการบังคับนำทรัพย์สินเหล่านี้มาชดใช้แทน

 

Leave a comment