ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/257413
วันอังคาร ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560, 16.37 น.
เกษตรกร อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ปรับพื้นที่นา หันปลูกแตงกวาระบบน้ำหยดขายช่วงหน้าแล้งสามารถเก็บผลผลิตส่งขายได้วันละ 200 – 400 ก.ก. สร้างรายได้ไม่น้อยกว่าวันละ 3,000 – 5,000 บาท แต่ละปีปลูกได้ 4 ครั้ง มีรายได้ครั้งละหลายหมื่นบาทสามารถเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี
21 ก.พ.60 เกษตรกรบ้านท่าเรือ ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้ปรับพื้นที่นาหันปลูกแตงกวาด้วยระบบน้ำหยดแทนการทำนาปรัง ซึ่งสาเหตุที่เกษตรกรเลือกปลูกแตงกวาเพราะเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยดูแลง่ายและมีอายุสั้นเพียง 1 เดือนเศษ ก็สามารถเก็บผลผลิตได้ประกอบกับปีนี้ ทางภาครัฐได้ประกาศให้งดทำนาปรังเพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในการอุปโภคบริโภค ซึ่งขณะนี้มีเกษตรกรหันมาปลูกแตงกวาแล้วเกือบ 10 ราย เฉลี่ยรายละ 2–4 ไร่ สามารถเก็บผลผลิตได้วันละ 200-400 กิโลกรัม นำไปขายทั้งปลีกและส่งที่ตลาดใน อ.สตึก โดยเฉพาะช่วงนี้แตงกวาจะมีราคาค่อนข้างสูงโดยราคาขายส่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 14 บาท ขายปลีกกิโลกรัมละ 20 บาท ทำให้มีรายได้วันละ 3000 – 5000 บาท โดยแต่ละปีจะสามารถปลูกได้ถึง 4 ครั้ง เพราะใช้เวลาปลูกสั้นเพียง 1 เดือนเศษเท่านั้น ซึ่งแต่ละครั้งจะเก็บผลผลิตขายได้หลายหมื่นบาท

นายภูวเดช วรอัศวภูมิ อายุ 33 ปี เกษตรกรบ้านท่าเรือ ต.ท่าม่วง อ.สตึก กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่สองที่หันมาปลูกแตงกวาระบบน้ำหยดแทนการทำนาปรังเพราะแตงกวาเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยและมีอายุสั้นเพียงเดือนเศษก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้แล้ว ซึ่งปีนี้ตนปลูกทั้งหมด 4 ไร่ สามารถเก็บผลผลิตได้วันละกว่า 400 กิโลกรัม ขายส่งกิโลกรัมละ 14 บาท จะมีรายได้วันละกว่า 5,000 บาท ซึ่งแต่ละครั้งก็จะสามารถเก็บผลผลิตได้ 20-30 วัน แล้วแต่การดูแลรักษาทำให้ในแต่ละครั้งจะมีรายได้จากการขายแตงกวาหลายหมื่นบาทซึ่งถือเป็นรายได้ที่สามารถเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี



