กนย.ไฟเขียว4โครงการช่วยยางพารา สนับสนุนสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนผู้ประกอบกิจการ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/267503

วันศุกร์ ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2560, 06.00 น.

นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ(กนย.) ได้ให้ความเห็นชอบการขยายเวลาโครงการช่วยเหลือชาวสวนยางประกอบด้วย 1.โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมยางพารา วงเงินสินเชื่อ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งสิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา แต่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรบางส่วนยังไม่สามารถคืนเงินให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ทั้งหมดจึงจำเป็นต้องขยายระยะเวลาออกไปจนถึง 31 มีนาคม 2563, 2.โครงการสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งมีการช่วยเหลือไปแล้ว แบ่งเป็นเจ้าของสวนยาง 711,839 ครัวเรือน และ คนกรีดยาง 675,790 ครัวเรือนยังมีเกษตรกรที่เข้าข่ายได้รับสิทธิ์ตกค้างอยู่ประมาณ 11,460 ครัวเรือน ที่ประชุมจึงอนุมัติให้ขยายระยะเวลาโครงการเวลาออกไปอีก 90 วัน นับถัดจากวันที่ ครม. มีมติเห็นชอบ 3.โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง และโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนรักษาเสถียรภาพราคายาง ที่ประชุมมีมติอนุมัติขยายระยะเวลาไปถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2563 เพื่อให้กระบวนการดำเนินงานทั้งหมดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ โครงการทั้งหมดจะถูกนำเข้าในที่ประชุม ครม. เพื่อผ่านความเห็นชอบอีกครั้ง

นอกจากโครงการที่สนับสนุนและช่วยเหลือเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรแล้ว ที่ประชุมได้อนุมัติ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยางกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ประกอบการแปรรูปน้ำยางข้นเนื่องจากอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยในปี 2558 ประเทศไทยผลิตยางพาราได้ประมาณ 4.47 ล้านตัน มูลค่าส่งออกรวมประมาณ 4 แสนล้านบาทเศษ เป็นรายได้ที่ส่งผลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของประเทศไทย ซึ่งสถานการณ์การผลิตและการใช้ยางพาราของโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกเผชิญปัญหานั้น พบว่าปริมาณการผลิต และปริมาณการใช้ยางพาราไม่สมดุลกัน เกิดความผันผวนของราคายางตั้งแต่ปลายปี 2554 จนถึงปัจจุบัน ดังนั้นเพื่อให้การแก้ไขปัญหาราคายาง และเพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมลดภาระงบประมาณของรัฐบาล โดยอาศัยความร่วมมือจากผู้ประกอบกิจการยางให้มีการการดูดซับยางพาราออกจากระบบนำมาเก็บสต๊อกของผู้ประกอบการในลักษณะหมุนเวียน (moving stock) เป็นการลดปริมาณยางในตลาด ซึ่งจะส่งผลให้ราคายางในตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น และมีเสถียรภาพมากขึ้นอันจะเป็นผลดีต่อรายได้ของเกษตรกรชาวสวนยางที่เพิ่มขึ้น

“สำหรับโครงการสนับสนุนสินเชื่อ เป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง โดยรัฐบาลจะสนับสนุนด้วยการชดเชยดอกเบี้ยในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 กับผู้เข้าร่วมโครงการ หรือคิดเป็นเงินช่วยเหลือจำนวนไม่เกิน 300 ล้านบาท จากวงเงินกู้ 1 หมื่นล้านบาท ให้กับผู้ประกอบการที่กู้เงินธนาคารใดๆ ก็ตาม เพื่อเป็นการผลักดันราคายางให้สูงขึ้น”ดร.ธีธัช กล่าวเพิ่มเติม

สำหรับสถานการณ์ยางพาราในตลาดโลก พบว่า ปัจจุบันปริมาณการใช้ยางของโลกมีอยู่ประมาณ 12.7 ล้านตัน ซึ่งสูงกว่าปริมาณสต๊อกยางในตลาดโลกในช่วงไตรมาสแรกของปี 2560 มีอยู่ประมาณ 2.7 ล้านตัน และเมื่อเปรียบเทียบราคายางในขณะนี้กับปีที่แล้วพบว่าสูงขึ้น 100% โดยราคายางแผ่นรมควัน ชั้น 3 ในเดือนมกราคมปีที่แล้ว อยู่ที่กิโลกรัมละ 30-40 บาท แต่ในวันนี้ราคายางอยู่ที่ กิโลกรัมละ 70 กว่าบาท ทั้งนี้ ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคายางมีความแกว่งตัว ซึ่งมีสาเหตุจากการเก็งกำไรล่วงหน้าทั้งที่ปัจจัยพื้นฐานยังคงเป็นบวก จึงขอฝากให้ติดตามข้อมูลและสถานการณ์ยางพาราอย่างใกล้ชิด

Leave a comment