เกษตรฯแนะเตรียมพร้อมรับมือน้ำเค็ม เตือน3จว.ภาคกลางวางแผนล่วงหน้า-ป้องกันผลกระทบ

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/267952

วันจันทร์ ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

x

นายสุรัตน์ สงวนทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 1 จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า ช่วงฤดูแล้งของทุกปีจะมีน้ำทะเลหนุน ส่งผลให้ 3จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี และปทุมธานี ได้รับผลกระทบด้านการเกษตร เนื่องจากน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติถูกความเค็มปะปน ส่งผลให้เมื่อมีการใช้น้ำดังกล่าวกับพืช จึงสร้างความเสียหายกับผลผลิต โดยค่าความเค็มตามมาตรฐานจะต้องไม่เกิน 1.2 กรัมต่อลิตร พืชโดยทั่วไปจะทนได้แต่ก็จะมีพืชบางชนิดที่ทนไม่ได้ เช่น กล้วยไม้ ซึ่งค่ามาตรฐานที่กล้วยไม้สามารถทนได้จะต้องมีค่าความเค็มไม่เกิน 0.75 กรัมต่อลิตร

ทั้งนี้ การสังเกตว่าต้นพืชที่ได้รับน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีค่าความเค็มปะปนมานั้น สังเกตได้จากอาการของพืชที่แสดงออกมาให้เห็น คือ ต้นพืชจะมีอาการขาดน้ำ ใบไหม้ ใบเหลือง ต้นเหี่ยว ถ้าพืชอยู่ในช่วงติดดอกออกผล ดอกจะร่วง ผลอ่อนร่วง หากพบอาการดังกล่าวให้เกษตรกรตรวจค่าความเค็มของน้ำว่าเกินมาตรฐานหรือไม่ หากมีค่าความเค็มเกินมาตรฐานหรือปนในปริมาณที่ไม่เหมาะสมกับการนำมาใช้ในการเกษตร ก็ให้เกษตรกรหยุดใช้น้ำดังกล่าว เพราะหากยังใช้น้ำอยู่ก็จะทำให้ต้นพืชตายในเวลาต่อมา สร้างความเสียหายให้กับผลผลิตได้

โดยปัญหาดังกล่าว สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 1 จ.ชัยนาท ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญเสมอมา จึงเตรียมพร้อมด้วยการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรได้ทราบถึงข้อมูลข่าวสาร พร้อมทั้งประสานกับ กรมชลประทาน ให้ดำเนินการตรวจค่าวิเคราะห์ความเค็มของน้ำ และรายงานผลการตรวจวิเคราะห์ค่าความเค็มของน้ำให้เกษตรกรได้ทราบล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่องทางการประชาสัมพันธ์จะเน้นไปที่การการใช้โซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ การกระจายข่าวสารสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรเป็นวงกว้าง

อย่างไรก็ตาม หากนำเค็มหนุนมากเป็นระยะเวลานานาน แนะนำให้เกษตรกรรีบผลักดันน้ำเค็มออกจากพื้นที่โดยวิธีธรรมชาติให้เร็วที่สุด หรือขุดเจาะบ่อบาดาลเพื่อนำน้ำมาใช้ทดแทนการใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ หรือจัดเก็บสต๊อกน้ำจืดไว้ใช้ในภาคการเกษตรให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ ยังแนะนำให้เกษตรกรใช้วิธีสร้างความชุ่มชื้นให้กับพืชด้วยการใช้น้ำอย่างประหยัด เช่น การใช้วัสดุคลุมโคนต้นเพื่อรักษาความชื้อในดิน การตัดแต่งกิ่งของต้นพืชให้โปร่งโล่ง จะทำให้ใช้น้ำน้อยลง หรือการใช้น้ำด้วยระบบสปริงเกอร์ ระบบน้ำหยด ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำใช้ได้ตลอดฤดูการผลิตพืชโดยไม่เกิดความเสียหายกับผลผลิตสินค้าเกษตร

Leave a comment