แตกใบอ่อน : 1พันบาท‘จัดการน้ำ’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/268430

วันพฤหัสบดี ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

807934531

ย่างเข้าเดือนพฤษภาคมของทุกปี เกษตรกรไทยส่วนใหญ่คงต้องพากันสาละวนกับการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับฤดูกาลผลิตใหม่ที่จะมาถึง ซึ่งให้บังเอิญว่า หลังจากเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ได้นำเสนอนวัตกรรม “แอคทีฟแพ็กเกจจิ้ง” (Active Packaging) นวัตกรรมสำหรับการยืดอายุการผลิตผลมะนาว คงรสชาติเปรี้ยวและสีเขียวสดได้นานถึง 3 เดือน

แต่คล้อยหลังได้เพียงไม่กี่วัน คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าของผลงาน “แอคทีฟแพ็กเกจจิ้ง” ก็จัดการเปิดตัวนวัตกรรมชิ้นใหม่ “สมาร์ทฟาร์มคิท” หรือชุดอุปกรณ์ควบคุมการรดน้ำอัจฉริยะ ซึ่งถ้าจะพูดแบบให้ทันสมัยหน่อย ก็คงต้องบอกว่านวัตกรรมชิ้นนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการผลิตให้กับเกษตรกรไทยในยุค 4.0 เท่านั้น แต่ยังมีราคาประหยัดแค่ 1,000 บาท

รศ.ดร.สุเพชร จิรขจรกุล อาจารย์สาขาวิชาเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนายั่งยืน คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. บอกว่า
อุปกรณ์ “สมาร์ทฟาร์มคิท” (Smart Farm Kit) หรือระบบควบคุมการรดน้ำอัจฉริยะ เป็นการพัฒนาร่วมกันของทีมนักวิจัยสาขาวิชาเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนายั่งยืน และเทคโนโลยีการเกษตร โดยระบบสมาร์ทฟาร์มคิททำให้ระบบมีการใช้น้ำที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถช่วยลดการใช้น้ำในการเกษตรได้ไม่ต่ำกว่า 3 เท่า โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง 3 อุปกรณ์ ดังนี้

•ระบบควบคุมการเปิด-ปิดน้ำ โดยภายในจะมีบอร์ดไมโครคอนโทลเลอร์ที่ช่วยควบคุมอุปกรณ์เปิด-ปิดไฟฟ้า (Relay) ที่ทำหน้าที่เปิดปิดวงจรไฟฟ้าในชนิดเดียวกับสวิตช์ไฟฟ้า โดยจะสามารถสั่งเปิด-ปิดปั๊มน้ำ สำหรับรดน้ำผักในแปลงเกษตรได้ อีกทั้งยังสามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดน้ำได้ตามความต้องการของชนิดพืช ยกตัวอย่างเช่น สั่งเปิดระบบไฟฟ้าของปั๊มน้ำทุกๆ 08.00 น. โดยรดน้ำเป็นเวลา 5 นาที เป็นต้น ทำให้ช่วยลดความกังวลที่เกษตรกรต้องเดินทางไปต่างจังหวัดหลายวัน ไม่มีเวลาดูแลรดน้ำพืชผล ก็ให้ใช้อุปกรณ์รดน้ำอัตโนมัติช่วยควบคุมการรดน้ำได้

•ระบบเซ็นเซอร์ติดตามสภาพอากาศ จะเป็นการตรวจวัดปัจจัยสภาพแวดล้อมของแปลงเกษตรใน 2 รูปแบบ คือ 1) การตรวจวัดอุณหภูมิ ในกรณีที่สภาพแวดล้อมของแปลงมีอุณหภูมิเกินที่กำหนด เช่น อุณหภูมิสูงเกิน 35 องศา ระบบจะทำการสั่งเปิดปั๊มน้ำเป็นระบบน้ำหยด หรือ สปริงเกอร์ จนกว่าอุณหภูมิจะลดระดับ 2) การวัดความชื้นในดิน ในกรณีที่ตรวจพบความชื้นในอากาศต่ำกว่าที่กำหนด เช่น ความชื้นในดินที่ต่ำกว่า 50% ระบบก็จะสั่งรดน้ำโดยอัตโนมัติ

•ระบบสั่งการและแจ้งเตือนผ่านสมาร์ทโฟน จะเป็นการส่งข้อความแจ้งเตือน พร้อมแสดงผลสภาพอากาศบริเวณพื้นที่แปลงเกษตร ผ่านระบบ Line Notify บนสมาร์ทโฟนของเกษตรกร เช่น อุณหภูมิที่ร้อน ความชื้นในดินที่แล้ง และปริมาณน้ำที่ลดน้อยลง ฯลฯ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก เพิ่มประสิทธิภาพ และประหยัดเวลาของเกษตรในการควบคุมและสั่งเปิด-ปิดระบบรดน้ำปุ๋ย รวมถึงน้ำสมุนไพรสำหรับป้องกันแมลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนหาแนวทางการป้องกันและกำจัดโรคให้ทันท่วงที เพื่อเพิ่มคุณภาพของผลิตผลทางการเกษตร

ขณะที่ต้นทุนของ “สมาร์ทฟาร์มคิท” เกษตรกรสามารถหาซื้ออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อนำมาประกอบเองได้ในงบประมาณ 1,000 บาทเท่านั้น โดยอุปกรณ์ 1 ชุด สามารถใช้กับพื้นที่แปลงเกษตรขนาด 1 ตารางกิโลเมตร หรือ 625 ไร่ ซึ่งโดยปกติหากเกษตรต้องการติดตั้งระบบรดน้ำอัตโนมัติ พร้อมติดตามผลสภาพอากาศของพื้นที่เกษตร อาจจะมีค่าใช้จ่ายอุปกรณ์และค่าดำเนินการติดตั้งราคาค่อนข้างสูงมาก

ขณะที่ รศ.ปกรณ์ เสริมสุข คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แอบกระซิบบอกว่า เกษตรกรที่สนใจชุดอุปกรณ์สมาร์ทฟาร์มคิท สามารถขอคำแนะนำการเลือกซื้ออุปกรณ์ โดยสอบถามที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2564-4482 สาขาเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนายั่งยืน และ 0-2564-4488 สาขาเทคโนโลยีการเกษตร หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ http://www.sci.tu.ac.th

ส่วนเกษตรกรที่อยู่ต่างจังหวัด หรือผู้ที่ไม่มีด้านเทคโนโลยีพื้นฐานในการจัดทำอุปกรณ์ ก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอคำแนะนำ หรือเข้ามาศึกษาดูงานที่แปลงสาธิตเกษตรของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. ได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

แบบนี้แหละครับ ถึงเรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมเพื่อคนไทยของจริง

Leave a comment