9จังหวัดภาคกลางเตรียมพร้อม รับมือภัยแล้งลดความเสียหายพืชผลการเกษตร

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/local/268273

วันพุธ ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

นายสุรัตน์ สงวนทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 1 จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งในปัจจุบันมีความรุนแรงกว่าในอดีตมาก ซึ่งพื้นที่ 9 จังหวัดภาคกลางในความดูแลของสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 1จ.ชัยนาท อยู่ในเขตชลประทานใช้น้ำจาก 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งจะใช้ร่วมกับจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ซึ่ง 4 เขื่อนหลักปัจจุบันมีน้ำเหลือใช้ 5,160 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 20.7%

แต่ด้วยสถานการณ์ภัยแล้งในปี 2560 ที่มีความรุนแรงน้อยกว่าปี 2559 ที่ผ่านมา เป็นผลมาจากปีนี้มีน้ำในเขื่อนหลักๆ เหลือมากกว่าปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกษตรกรเพาะปลูกข้าวนาปรังทั้งประเทศเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้จาก 6.9 ล้านไร่เป็น 11.5 ล้านไร่ เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 60% โดยเขตภาคกลาง 9 จังหวัด กำหนดเป้าหมายการปลูกข้าวไว้ 1.53 ล้านไร่แต่มีเกษตรกรปลูกข้าวนาปรัง 2.44 ล้านไร่เกินเป้าหมาย 60% ส่วนที่ทำนาปรังเกินเป้าหมายทำให้การส่งน้ำเข้ามาต้องใช้น้ำเกินกำหนดถึงเท่าตัว ประกอบกับขณะนี้มีเกษตรกรที่ยังไม่เก็บเกี่ยวข้าวนาปรังอยู่อีก 1.4 ล้านไร่ ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานพื้นที่ปลูกข้าวได้รับผลกระทบจากภัยแล้วในพื้นที่ อ.บางระจัน 80 ไร่ อ.อินทร์บุรี 539 ไร่ ประกอบกับขณะนี้มีเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวข้าวนาปรังแล้ว เริ่มปลูกรอบที่ 2 จำนวน 67,000 ไร่ ทำให้ต้องใช้น้ำเยอะจึงเสี่ยงต่อภัยแล้งที่จะเกิดขึ้น

ดังนั้นเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือภัยแล้งที่จะสร้างความเสียหายให้กับพืชผลทางการเกษตร ทางสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 1 จังหวัดชัยนาทกรมส่งเสริมการเกษตร จึงวอนขอให้เกษตรกรที่เก็บเกี่ยวข้าวนาปรังรอบแรก งดปลูกข้าวนาปรังรอบที่ 2 เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาภัยแล้งที่จะเกิดขึ้น ในส่วนของพืชอื่นๆ เช่น พืชไร่ พืชผัก ไม้ผลที่อยู่นอกเขตชลประทานทางสำนักงานฯ ก็ไม่ได้ทอดทิ้ง โดยจะมีมาตรการช่วยเหลือด้วยการส่งเสริมความรู้การวางแผนการผลิตพืชให้เหมาะสมกับพื้นที่ในแต่ละช่วงเวลา พร้อมทั้งส่งเสริมการจัดการแปลงปลูกอย่างเหมาะสม อาทิ การกำจัดวัชพืช การคลุมโคนต้น การพรางแสง เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับพืชในช่วงที่ประสบภัยแล้ง รวมถึงแนะนำให้ใช้เทคโนโลยีประหยัดน้ำ ได้แก่ ระบบน้ำหยด ระบบสปริงเกอร์ เพื่อประหยัดการใช้น้ำไปพร้อมกันด้วย ซึ่งการส่งเสริมดังกล่าวจะมีศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) เป็นศูนย์กลางในการให้ความรู้และการส่งเสริมด้านต่างๆ

Leave a comment